นายกฯ ชม "SME Restart" ยกศักยภาพ SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่
4 เม.ย. 2566, 15:31
วันนี้ ( 4 เม.ย.66 ) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (4 เมษายน 2566) เวลา 14.00 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และคณะผู้บริหาร เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ “SME Restart” ยกศักยภาพ SME สายท่องเที่ยวเชื่อมโยงชุมชน ซึ่งเป็นโครงการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ Sandbox เพิ่มเติมตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อการก้าวสู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ และสร้างต้นแบบกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมโครงการฯ และพบตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน ได้แก่ 1) นายชวน ชูจันทร์ ตัวแทนผู้ประกอบการจากชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยม นำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บริการเรือพายชมนาบัว เรือนเกษตรพันธุ์ไม้ และสวนกล้วยไม้เครือข่ายท่องเที่ยวตลาดน้ำ 2) นายณรงค์ อิ่มสำราญเจริญสุข ตัวแทนผู้ประกอบการจาก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกาะกัญพัฒนา ดงเกตุ สามพราน นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร ด้วยการเกษตรแบบพื้นบ้านบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชน โดยนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน เช่น กล้วยอบ กระเทียมดอง มะพร้าวน้ำหอมเผา ขนมไข่ผิง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และชมพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เช่น บอนสี ชวนชม เป็นต้น และ 3)นางสาวสุธาสินี ชัยเขื่อนขันธ์ ตัวแทนผู้ประกอบการจากชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบางน้ำผึ้ง
นายกรัฐมนตรีชื่นชมการดำเนินโครงการฯ เพื่อร่วมกันสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กลับมาภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง ยินดีที่ผู้ประกอบการ SME และกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนให้ความสนใจ พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันขับเคลื่อน พัฒนา และต่อยอดองค์ความรู้ รวมทั้งมีแนวทางปฏิบัติร่วมกันของภาคการท่องเที่ยวเพื่อให้ได้กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ และยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ชุมชนต่าง ๆ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป ทั้งนี้ ควรเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวให้น่าประทับใจ ปรับรูปแบบการให้บริการที่มีความสอดรับกับวิถีของคนในท้องถิ่นและชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้ได้มากที่สุด อันจะนำไปสู่การสร้างศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทั้งเมืองหลัก เมืองรอง และพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ขอให้ร่วมมือกันพัฒนาต่อยอดเครือข่ายเพื่อขยายโมเดลสู่การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมกันสร้าง story เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นความภาคภูมิใจของชุมชน สร้างจุดเด่นให้เป็นเอกลักษณ์เพื่อเพิ่มจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ให้กำลังใจผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องทุกคนทุกฝ่าย ที่ได้ร่วมมือกันขับเคลื่อนบูรณาการการทำงานด้วยความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจชุมชนซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศเจริญเติบโตและมีความเข้มแข็ง อันจะส่งผลต่อศักยภาพการพัฒนาประเทศในภาพรวม
สำหรับโครงการ “SME Restart” จะมีการรับสมัครผู้ประกอบการ SME ท่องเที่ยวทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ พร้อมเผยแพร่ต้นแบบกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนา 15 กลุ่มธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในวงกว้างทั้งแบบออนไลน์ ออฟไลน์ จากนั้นจะจัดกิจกรรมยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยว (Tourism Transform) พร้อมให้ความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น Wellness & Senior Tourism ECG & SDG เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมการเชื่อมโยงธุรกิจให้กับผู้ประกอบการต้นแบบใน 5 สาขาอาชีพ ได้แก่ 1) บริการพาหนะทางน้ำและบก 2) โรงแรมและที่พัก 3) ร้านอาหาร 4) นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และ 5) ธุรกิจสปา เพื่อให้ได้กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวต้นแบบที่ยั่งยืนพร้อมจัดทำต้นแบบทางธุรกิจในรูปแบบดิจิทัลเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ต่อไปด้วย โดยได้ตั้งเป้าหมายสร้างผู้ประกอบการที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ จำนวน 1,000 ราย มีผู้ประกอบการที่ได้รับการเชื่อมโยงธุรกิจกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชน 1,000 ราย/15 ชุมชน สามารถสร้างต้นแบบกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 15 กลุ่มธุรกิจ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท