5 เม.ย. 2566 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า และอาสาสมัครดับไฟป่าในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่าน ยังคงระดมกำลังเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าดอยภูคา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่จริม เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำน้ำพงษ์ และตัวแทนราษฎรบ้านก้อ บ้านตอง ต.แม่จริม อ.แม่จริม ร่วมกันตรวจสอบจุดความร้อนและควบคุมไฟป่า ตามที่รับแจ้งจุดเกิดความร้อน บริเวณป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา พื้นที่ บ้านก้อ ต.แม่จริม อ.แม่จริม และ บ้านห้วยวิน ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังเข้าดับไฟ แต่ด้วยพื้นที่ภูเขาสูงชัน ทำให้ไฟป่าเผาไหม้เสียหายไปรวม 40 ไร่

ทั้งนี้ จังหวัดน่าน พบมีจุดความร้อนเกิดขึ้นถึง 118 จุด เป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ โดยพบมีไฟป่ามากสุดในเขตป่าอนุรักษ์ และในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน รองมาอำเภอเวียงสา ส่งผลให้ สภาพอากาศจังหวัดน่านปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟ และมีค่าฝุ่นละอองพุ่งสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ขั้นกระทบต่อสุขภาพประชาชน

นายธีรพล มีทองขาว ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และในฐานะ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่า ดูแลพื้นที่จ.น่าน และ จ.แพร่ เผยว่า

สาเหตุหลักของไฟป่า ยังคงมาจากการลักลอบเผา ที่เป็นวิถีชีวิตชาวบ้าน เรื่องการหาของป่า ในความเชื่อเดิมที่ต้องใช้ไฟเผาช่วยกระตุ้นการออกของผักหวานป่า และเห็ดถอบ ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่นภาคเหนือยอดนิยม และมีราคาสูง รวมทั้งการเผาเพื่อล่าสัตว์ป่า ที่ยังพบหลักฐานอุปกรณ์การล่าสัตว์ จำนวนมากในป่า

โดยในปีนี้จะพบมีการเกิดไฟป่ารุนแรงและเป็นวงกว้าง เนื่องจากสภาพป่าที่มีความแห้งแล้งมาก ฝนทิ้งช่วงมายาวนานตั้งแต่ปีก่อน ทำให้มีเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก เมื่อเกิดเปลวไฟจึงกระจายรวดเร็วและรุนแรง

ด้วยสภาพภูมิประเทศ ภูเขาสูงชัน ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟยากลำบาก และเสี่ยงอันตรายในการทำงาน จึงทำให้ไม่สามารถดับไฟได้ ทำได้เพียงทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันลุกลามขยายวงกว้าง

ซึ่งมาตรการห้ามเผา อาจช่วยยับยั้งได้ในระดับหนึ่ง โดยได้เตรียมเสนอมาตรการเพิ่มเติม ให้มีการปิดป่า และตั้งด่านสกัดในพื้นที่ เพราะสถิติหลักเกิดการลักลอบเผา จึงเกิดไฟป่าซ้ำซากในทุกๆปี