"สาววัย 37" คลอดลูกสาว ตกเลือดเสียชีวิต ญาติไม่ปักใจเชื่อ วอน รพ. ชี้แจง!!
2 ต.ค. 2562, 14:33
วันที่ 2 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บริเวณบ้านเลขที่ 74/1 หมู่ที่ 4 ตำบลทางพระ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ทางญาติได้นำร่างไร้วิญญาณของ นางสาวประทิน คลังชนะ อายุ 37 ปี มาตั้งทำการบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนา หลังจากคลอดลูกสาวและตกเลือดเสียชีวิต เหตุเกิดที่โรงพยาลโพธิ์ทอง เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน ที่ต้องสูญเสียเสาหลักของบ้านและเพื่อนไป ทั้งที่มีร่างกายแข็งแรง และจบชีวิตลงอย่างที่ไม่คาดคิดก่อนวัยอันควร
จากการสอบถาม นางสาวสุจิตรา บุญต่อ อายุ 21 ปี หลานสาว เล่าให้ฟังว่า นางสาวประทิน ผู้เสียชีวิต ทำงานเป็นหัวหน้าพนักงานของโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีลูกมาแล้ว 2 คน เป็นผู้หญิง อายุ 18 ปี กับลูกชายวัย 3 ขวบ ซึ่งได้ตั้งท้องแล้วคลอดลูกคนที่ 3 เป็นเพศหญิง ที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากคลอดลูกได้ไม่นานก็มีอาการตกเลือดเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง ที่ต้องสูญเสียเสาหลักของบ้านไป ทางญาติพี่น้องติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องที่ผ่านมานั้นและก่อนที่จะเข้าห้องคลอด นางสาวประทิน ก็มีร่างกายแข็งแรงมาตลอด แม้กระทั่งวันที่จะคลอดลูก ยังเดินลงจากบันไดจากในบ้านไปขึ้นรถกู้ชีพของทางเทศบาลตำบลทางพระ ที่มารับไปส่งโรงพยาบาลด้วยตนเอง แต่ต้องมาจบชีวิตลงอย่างไม่คาดคิดก่อนวัยอันควร
ด้าน นายสุชิน คลังชนะ อายุ 61 ปี ผู้เป็นพ่อ เล่าให้ฟังว่า ลูกสาวทำงานโรงงานและยังเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัวมาตลอด โดยที่ผ่านมาลูกสาวตนเองมีร่างกายแข็งแรงไม่เคยหยุดงานเลย เพิ่งลาหยุดมาใกล้คลอดลูก และการเสียชีวิตจากไปของลูกสาวอย่างกะทันหันหลังคลอดลูกคนที่ 3 ทำให้ชีวิตในครอบครัวเปลี่ยนไป ในการดูแลลูกทั้ง 3 คน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตนเองติดใจเรื่องเสียชีวิต อยากให้ทางโรงพยาบาลชี้แจง
ส่วนทางด้าน นายวิเชียร บุญจรัส อายุ 42 ปี สามี เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีอาชีพขับรถสิบล้อ ทางญาติได้แจ้งให้รีบมาดูภรรยา หลังจากมีภาวะตกเลือดหลังคลอด จึงรีบเดินทางมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อมาดูภรรยาที่ตกเลือด หลังจากการคลอดลูก ซึ่งตนเองเดินทางมาถึงตอนที่ภรรยาตัวซีดเหลืองหมดแล้ว และทางเจ้าหน้าที่กำลังปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่ไม่ทันต้องมาจบชีวิตหลังคลอดลูกได้ไม่นาน ทั้งที่ภรรยามีร่างกายแข็งแรง และไม่คิดว่าจะมีการเสียชีวิตที่เกิดจากการตกเลือดในตอนนี้
ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายแพทย์ทวีโชค โรจนอารัมภ์กุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ป่วยได้เดินทางไปคลอดที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง ในตอนเช้าของวันที่ 30 ก.ย. 62 ที่ผ่านมา หลังจากคลอดลูกแล้วอาการของแม่และเด็กปกติดี ทางพยาบาลจึงได้แจ้งให้ญาติทราบ หลังจากนั้นผู้ป่วยมีอาการผิดปกติมีความดันโลหิตลดต่ำลงจนเกิดอาการช็อคจนหัวใจหยุดเต้น จึงได้ทำการช่วยเหลือปั๊มหัวใจจนหัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง โดยทางทีมแพทย์ได้วางแผนที่จะส่งตัวผู้ป่วยไปทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลอ่างทอง แต่ระหว่างที่จะทำการนำส่งผู้ป่วยได้เกิดหัวใจหยุดเต้นอีกครั้งหนึ่ง ทางแพทย์และพยาบาลจึงได้ทำการปั๊มหัวใจฟื้นคืนชีพ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ออกไปแจ้งทางญาติว่าผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว
สาเหตุเบื้องต้นทราบว่า เป็นอาการตกเลือดหลังคลอด ซึ่งอาการตกเลือดหลังคลอดจะพบได้ในการคลอดประมาณ 1 – 5 เปอร์เซ็นต์ ในคนไข้ที่คลอดลูกปกติ โดยอาการจะเกิดเมื่อมีเลือดออกมากกว่า 500 ซีซี จากการคลอดทางช่องคลอด ซึ่งจะมีหลายสาเหตุ ตั้งแต่ 1) มีอาการฉีกขาดของปากมดลูกและตัวมดลูกหรือตัวช่องคลอดทำให้เลือดออกผิดปกติ 2) มีการฉีดขาดของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตัวมดลูกฉีกขาดทำให้เลือดออกผิดปกติ 3) รกผิดปกติทำให้เสียเลือดมากกว่าปกติ 4) มีรกค้างหรือมีเศษชิ้นเนื้อจากการคลอดค้างอยู่ในมดลูก ทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ปกติ 5) มีภาวะเลือดผิดปกติของตัวคนไข้เองที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ก็จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีการตกเลือดหลังคลอดได้ ถ้าทางญาติติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง ก็พร้อมที่จะนำศพของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ได้เข้าไปพูดคุยกับทางญาติของผู้เสียชีวิตในการที่จะแนะนำและให้คำปรึกษาเบื้องต้น ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นผู้ใช้สิทธิประกันสังคม จึงไม่สามารถขอตามมาตรา 41 ในสิทธิหลักประกันสุขภาพได้ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่พาญาติไปยื่นขอค่าช่วยเหลือเสียชีวิตจากสำนักงานประกันสังคม ในส่วนอื่นต้องรอทางญาติได้พูดคุยตกลงกับทางโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ต่อไป