ขนลุก ! "พระลูกวัด" ถ่ายภาพติดวิญญาณกลางดึก ก่อนรีบย้ายกุฏิไปขอนอนกับเพื่อนพระ
13 เม.ย. 2566, 13:14
เมื่อวันที่ 12 เมษายน เวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี หลังมีการแชร์ภาพส่งต่อเกี่ยวกับพระลูกวัดดังกล่าว ถ่ายภาพติดวิญญานใบหน้าของหญิงสาวบนต้นไม้ ระหว่างออกมาเข้าห้องน้ำกลางดึก โดยพบว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยคหบดีในสมัยนั้น
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาพถ่ายจากพระลูกวัดดังกล่าว แต่ไม่พบตัวพระที่เป็นคนถ่ายภาพ จึงได้สอบถามกับลูกศิษย์วัดรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ภาพดังกล่าวถูกถ่ายไว้เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากพระลูกวัดองค์ดังกล่าวออกจากกุฎิเพื่อจะลงมาเข้าห้องน้ำส่วนรวม ที่อยู่นอกอาคารชั้นล่าง ปรากฎว่าระหว่างที่เดินลงมานั้น สายตามองไปเห็นคล้ายใบหน้าหญิงสาวคนหนึ่งในพุ่มไม้ แต่ด้วยความไม่แน่ใจจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้ แล้วรีบเข้าห้องน้ำทำธุระจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเมื่อนำภาพที่ถ่ายไว้มาเปิดดูก็พบว่า มีภาพใบหน้าของหญิงสาวที่ดูแล้วน่าขนลุกอยู่ใต้ต้นไม้อย่างชัดเจน จึงรีบย้ายกุฎิไปขอนอนกับพระลูกวัดอีกห้องหนึ่ง จากนั้นก็มีข่าวว่าพระลูกวัดแห่งนี้ถ่ายรูปติดผีสาว ลือสะพัดไปทั่ววัด และมีผู้คนมาขอดูก่อนจะถูกส่งต่อๆกันไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องดังกล่าวกับพระผู้ช่วยเจ้าอาวาสแห่งนี้ เปิดเผยว่า สอบถามถึงภาพถ่ายดังกล่าว อาตมาได้เห็นภาพที่พระลูกวัดถ่ายติดวิญญานหญิงสาวแล้วนำมาให้อาตมาช่วยดู ว่าภาพที่เห็นใต้พุ่มไม้นั้น เป็นภาพวิญญานของหญิงสาวใช่หรือไม่ ซึ่งอาตมาก็เชื่อว่าเป็นวิญญาณของหญิงสาวที่ยังคงเวียนวนอยู่ในวัดแห่งนี้ ส่วนสาเหตุที่มาปรากฎตัวให้เห็นนั้น คงจะมาขอส่วนบุญเนื่องจากใกล้กับเทศบาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย
โดยวัดแห่งนี้มีอายุ 200 กว่าปี สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งที่ผ่านมาก็มีพระและญาติโยมในระแวกวัดหลายคนก็เคยเจอเรื่องสิ่งลี้ลับมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะที่บริเวณด้านหลังท้ายวัดที่มีเจดีย์เก่าแก่อยู่คู่กับวัดมา ในตอนกลางคืนแทบจะไม่ใครกล้าเดินผ่าน ส่วนอาตมาเมื่อเดินผ่านก็จะรู้สึกเย็นเยือกชวนขนลุกเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงดึกด้วยแล้ว ที่วัดแห่งนี้จะไม่มีใครกล้าเข้ามาในตอนกลางคืน ยิ่งเป็นผู้หญิงแล้วจะมายืนในวัดตอนเที่ยงคืนจึงไม่น่าจะใช่
พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสยัง เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาในอดีตวัดแห่งนี้พื้นที่ด้านหลังในสมัยก่อนจะเป็นพื้นที่ที่ใช้เผาศพแบบกองฟ่อน และส่วนที่สร้างกุฏิกับศาลาการเปรียญของวัดส่วนใหญ่จะเป็นป่าช้าเก่ามาก่อน ก่อนจะถูกปรับปรุงจนเป็นอยู่ในสภาพปัจจุบัน ที่ผ่านมาทุกวันโกนหรือวันพระ หมาในวัดมักจะเห่าหอนประจำ จนชาวบ้านแถบไม่เดินทางผ่านเพราะเคยมีชาวบ้านในละแวกวัดเขาเคยเจอสิ่งลี้ลับมาแล้วเหมือนกัน
จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า จุดที่พระลูกวัดถ่ายภาพติดใบหน้าดวงวิญญานหญิงสาวมานั้น เป็นจุดด้านหน้าอาคารกุฎิที่มีพุ่มไม้ปลูกอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่เพียงต้นเดียว ผู้สื่อข่าวจึงได้พยายามทดลองหามุมถ่ายให้ใกล้เคียงกับภาพถ่ายติดวิญญานดังกล่าวด้วยแต่ก็ไม่พบสิ่งแปลกปลอมใดๆ ติดภาพออกมา จึงคาดว่าภาพดังกล่าวน่าจะเกิดจากการหักเหของแสง ประกอบกับการถ่ายภาพซูมในตอนกลางคืนของผู้ถ่าย จึงทำให้เกิดเป็นภาพดังกล่าวขึ้นมา แม้ว่าทางพระในวัดและชาวบ้านจะเชื่อว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพวิญญานของหญิงสาวที่ชัดเจนก็ตามเป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ