นายดนุพล  แจะซ้าย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 8 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีโอนเงินจองวัตถุมงคล รุ่นกันชง ของวัดจุฬามณีแล้วไม่ได้รับวัตถุมงคลดังกล่าว และต้องสูญเงินเกือบ 6 แสนบาท ว่า ตนเองเป็นคนชอบพระเครื่อง วัตถุมงคล  โดยก่อนหน้านี้ก็มีการเช่าบูชาวัตถุมงคลมาเพื่อปล่อยเช่าอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นพระใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม และหลายๆรุ่นที่ทางวัดเปิดจองและได้ทำการจองไปนั้นไม่เคยมีปัญหา โดยก่อนหน้านี้ตนเองได้เช่าวัตถุมงคลกับเพื่อนอีกคนและเพื่อนคนดังกล่าวก็ได้ไปแบ่งพระมาจากนางสาวน้ำหวาน เพราะนางสาวน้ำหวานเป็นคนรับจองวัตถุมงคล รับเช่าพระ  และนำพระมาให้กับตนเอง

และเมื่อตนเองได้รู้จักกับนางสาวน้ำหวานตนเองก็ได้ทำการติดต่อสอบถาม นางสาวน้ำหวานไปว่า มีพระกันชงเสริมสิริมงคงของวัดจุฬามณีมั้ย  นางสาวน้ำหวานก็ตอบว่ามี และสอบถามตนเองกลับมาว่าจะเอารายการไหนบ้าง และได้ส่งใบจองมาให้ตนเองดูเพื่อจะได้แจ้งกลับเรื่องรุ่นและจำนวน เมื่อตนเองได้ดูรายการ ก็ได้พิมพ์ตอบกลับไปว่าจะเอารุ่นไหนจำนวนเท่าไหร่ และทำการโอนเงินไปให้กับนางสาวน้ำหวานทันที หลังจากนั้นนางสาวน้ำหวานก็จะลงในใบจองวัตถุมงคงพร้อมกับประทับตราชื่อศูนย์พระ ที่ชื่อว่า”หวานบ้านหาด พระใหม่ พระแท้”ส่งมาให้ตนเองดูทุกครั้งหลังจากโอนเงิน   หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นก็จะทักมาว่ามียอดเพิ่มนะจะเอามั้ย ตนเองก็สอบถามว่ารุ่นไหน ทางนางสาวน้ำหวานก็ส่งรายละเอียดมา และตนเองก็ได้มีการจองเพิ่มไปอีก ในบางวันมีการจองเพิ่มถึง 2 ครั้ง โอนเงิน 2 ครั้ง และนางสาวน้ำหวานก็จะส่งใบจองมาให้ตนเองดูทุกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2565 จนถึงวันที่ 26 มกราคม 2565 ซึ่งพระกันชงรุ่นที่ตนเองจองนั้น จะมีทั้งพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ และในแต่ละรุ่นก็จะมีด้วยกันถึง 7 สีตามสีวันเกิด จะมีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อตะกั่ว เนื้อทองแดง และอีกหลานๆรุ่นปลีกย่อยลงไป ซึ่งในแต่ละรุ่นก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไป

จากการจองวัตถุมงคงรุ่นกันชงนั้น นายดนุพลเปิดเผยต่อว่ารวมทั้งหมดที่เช่าไปเป็นเงินประมาณ 588,180บาท โดยมีการโอนเงินไปจองจำนวน 7 ครั้ง ในระหว่างนั้นตนเองไม่คิดว่าจะมีปัญหาเพราะจากที่ผ่านมานั้น โปรไฟล์ เครดิตของนางสาวน้ำหวานนั้นน่าเชื่อถือมาก อาจมีการส่งล่าช้าบ้างแต่ก็ไม่เคยโดนโกง   แต่เมื่อตนเองได้ทำการจองวัตถุมงคลรุ่นกันชงไปได้ไม่นานก็เริ่มมีเพื่อนที่รู้จักกันและอยู่ในวงการพระเครื่องเหมือนกันได้ทักมาถามว่าได้มีการจองพระไปกับนางสาวน้ำหวานบางหรือเปล่าเพราะตอนนี้โดยนางสาวน้ำหวานโกงเงินกันอยู่หลายราย  แต่ตนเองก็ยังไม่ได้สนใจ

จนมีเพื่อนอีกคนโทรมา จึงเริ่มไม่ไว้ใจและได้ทักไปสอบถามพร้อมกับโทรไปแต่นางสาวน้ำหวานก็ไม่รับสาย ตนเองจึงตัดสินใจขึ้นไปหาที่จังหวัดอุทัยธานีในระหว่างนั้นก็ได้แวะปริ้นเอกสารที่จังหวัดราชบุรีและแจ้งความที่โรงพักราชบุรี โดยตนเองได้ถ่ายรูปตนเองที่โรงพักโพสต์ลงเฟสบุ๊ค เมื่อนางสาวน้ำหวานเห็นจึงได้ติดต่อกลับมา และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับบอกว่าจะผ่อนจ่ายให้เดือนละ 1 หมื่นบาท แต่ตนเองก็บอกว่าให้ออกมาคุยกันพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตนเองได้เดินทางไปหานางสาวน้ำหวานที่จังหวัดอุทัยธานี แต่สุดท้ายนางสาวน้ำหวานก็ไม่ออกมา บอกเพียงว่าให้เข้าไปหาที่บ้านแต่ตนเองก็ไม่เข้าไป

หลังจากนั้นตนเองก็รวบรวมผู้เสียหายทั้งหมดที่พอจะรวบรวมได้จากการที่ถูกนางสาวน้ำหวานโกง ไปที่กองปราบเพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับการกระทำของนางสาวน้ำหวาน เนื่องจากความเสียหายครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทอย่างแน่นอน แต่ความคืบหน้าทางคดีนั้นค่อนข้างช้ามาก ซึ่งตนเองก็ได้รับความเดือนร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เนื่องจากตนเองได้ลาออกจากงานเพื่อกลับบ้านมาเลี้ยงลูก และทำธุรกิจที่บ้าน จึงได้นำเงินเก็บไปเช่าวัตถุมงคลมาเพื่อปล่อยเช่าต่อไป แต่กลับโดนนางสาวน้ำหวานโกงเงิน จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่รีบดำเนินการติดตามเอาคนผิดมาลงโทษ เพราะปัจจุบันนี้มีคนทำลักษณะแบบนี้โกงเงินกันอย่างหน้าตาเฉยและกฎหมายก็เอาผิดอะไรกับคนพวงนี้ไม่ได้ ทำให้คนโกงสร้างความเดือนร้อนให้กับคนอื่นๆไปทั่ว