วันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน เข้าตรวจสอบลานหน้าบ้านเลขที่ 74 บ้านสองแคว หมู่ที่ 5 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน สืบเนื่องจากวานนี้ เกิดเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย เมื่อเวลา 16.00 น. จนมีผู้บาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลน่าน จากนั้นช่วงเวลา 03.04 น. รุ่งสางของวันนี้ที่ผ่านมาได้เสียชีวิตลง ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนาย ธีรโชติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 หมู่ที่ 5 ซึ่งอยู่ถัดกับบ้านที่เกิดเหตุไป 3 หลัง โดยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุที่ยืนรอมอบตัวอยู่แล้ว 3 คน คือ นายจ๊ะ อายุ 58 ปี นายประสงค์ อายุ 25 ปี และนายธนกร อายุ 21 ปี ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้ตาย แล้วไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลน่าน

ด้านนายจ๊ะ ผู้ต้องหาได้เล่าว่า วันเกิดเหตุ นายธีรโชติ หรือโชติ (ผู้เสียชีวิต) คาดว่าน่าจะหลอนยาเสพติดได้เข้ามาข่มขู่ที่บ้านที่มีเพียงแม่ของตนวัย 80 ปี และพี่ชายที่นอนป่วยติดเตียง สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่ทางบ้านตนจะสร้างเป็นแคร่ม้านั่งบริเวณใต้ต้นตะคบ เพื่อไว้ใช้นั่งคลายร้อน ซึ่งเป็นบริเวณที่นายโชติมานั่งซุ่มดักยิงนกอยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นหน้าบ้านบริเวณเขตบ้านของตน จึงทำให้นายโชติไม่พอใจ เดินสะพายปืนและถือมีดเข้ามาหาเรื่องและขู่จะฆ่าแม่กับพี่ชายของตน แล้วเดินมาขู่อย่างนี้ตั้งแต่เช้าไปแล้ว 4 ครั้ง และ จนเวลาประมาณ 15.30 น. ครั้งที่ 5 ได้เข้ามาหาเรื่องแม่ของตนวัน 80 ปี และพี่ชายของตนที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ภายในบ้าน ข่มขู่ว่าจะฆ่าเป็นครั้งที่ 5 ครั้งนี้มีเหตุการณ์รุนแรง โดยนายโชติได้ต่อยเข้าที่บริเวณเบ้าตาของแม่ตนวัน 80 ปี จนมีรอยช้ำ ทางญาติจึงพาแม่ตนหลบที่บ้านญาติ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตร นายโชติได้ตามไปทำร้ายจนแม่ตนล้มลงแล้วได้เหยียบหัวแม่ตนติดกับพื้นต่อหน้า ตนจึงเก็บความไม่พอใจไว้ แล้วพาแม่กลับบ้าน จากนั้นลูกชายของตนกับหลาน คือนายประสงค์ และนายธนกร ได้กลับมาจากไปทำธุระที่ในตัวอำเภอ เห็น นายโชติจะตะโกนท้าทาย และถามว่า มึงเป็นลูกนายจ๊ะใช่ไหม จะมาช่วยพ่อมึงใช่ไหม พอลูกชายทั้ง2คนทราบเรื่องว่าแม่โดนทำร้ายร่างกาย จึงชกต่อยกันบริเวณถนนหน้าบ้าน ตนจึงขยับเข้าไปในเขตบ้านตนบริเวณลานหินและบอกนายโชติว่าอย่าเข้ามา แต่นายโชติไม่ฟังปรี่เข้ามา เลยเกิดตะลุมบอนกันขึ้นมาอีกบริเวณลานหินหน้าบ้านอีกรอบ

โดยทั้ง 2 คนสู้นายโชติไม่ไหวเนื่องจากตัวใหญ่กว่า ระหว่างนั้นนายโชติได้หยิบไม้ท่อนขนาด 50x15 เซนติเมตรขึ้นมาจะตี ตนจึงเข้าไปแย่งและทุบหัวนายโชติไป 1 ที จนล้มฟุบลงไปแต่ยังมีลมหายใจอยู่ ตนจึงโทรแจ้ง 191 ให้นำนายโชติไปโรงพยาบาล

ทางด้านนาย จ๊ะ ได้เล่าเหตุการให้ฟังว่า  มันก็พกปืนทุกวันแหละ แต่เมื่อวานถอดเสื้อถอดกางเกงเหลือแต่กางเกงในเดินไปมาในหมู่บ้าน ดูท่าทางเหมือนคนเมา น่าจะเสพยามา มาหาเรื่อง ทั้งมาต่อยแม่อายุ80ปี พาแม่หนีไปบ้านอีกหลังก็ยังตามมาทะเลาะวิวาทแล้วยังมาเหยียบแม่เราถึงบ้าน มันทำร้ายแม่ผมต่อหน้าผมเลย ลูกผมจะต่อยตั้งแต่ตอนนั้นละ แต่ผมบอกลูกว่าอย่าไปยุ่งเลยลูก

หลังจากทราบข้อมูลว่านายโชติ มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและมีอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จึงไปขอตรวจสอบในห้องนอนของนายโชติ พบแม่ของนายโชติบอกว่า นายโชติไม่เคยมีปืน จากการตรวจดูห้องมีการเก็บกวาดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่พบอาวุธปืน พบแต่ลูกกระสุนปืนลมจำนวน 2 กล่อง และฟรอย์จากซองบุหรี่ที่มีการเตรียมไว้ คาดว่าเป็นอุปกรณ์ใช้เสพยา โดยแม่ของนายโชติได้ให้ข้อมูลว่า มีการใช้ไม้ไผ่ในการฟาดระหว่างทะเลาะวิวาทกัน และมีการนำไม้ไผ่ไปซ่อนไว้ในบ้านที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจดูกก็ไม่พบ

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายโชติ ยังอยู่ในระหว่างหลบหนี้หมายจับของศาลจังหวัดน่าน หลังจากได้รับประกันตัวจากศาลจังหวัดน่าน ในข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า แล้วไม่ยอมไปรายงานตัวต่อศาล จึงถูกออกหมายจับ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหา นายจ๊ะ นายประสงค์ และนายธนกร พ่อลูกและหลาน ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่าบันดาลโทษะ และป้องกันตัว นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย ต่อไป