วันที่ 22 เม.ย.66 ที่บริเวณตรงข้ามทางเข้าองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม ม.7 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พี่น้องชาวไทยมุสลิม นักท่องเที่ยว จำนวนมาก ต่างเดินทางมาชมความงดงดงามของประตูชัยแห่งวัฒนธรรมมลายู หรือ ปินตูกืรบังมลายู ที่กลุ่มเยาวชนมุสลิมบ้านบันนังสิแน ร่วมกับชาวบ้านมลายูบ้านบันนังสิแน สร้างขึ้นพร้อมประดับประดาตกแต่งติดตั้งแสงไฟอย่างสวยสดงดงาม  เพื่อต้อนรับเทศกาลฮารีรายออีฎิ้ลฟิตตรี ฮิจเราะห์ศักราช 1444 ประชาชน นักท่องเที่ยวต่างก็ใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพ เซลฟี่ เก็บรูปความสวยงามไว้เป็นที่ระลึก พร้อมอวดลงในโซเชียล ทำให้บริเวณนี้คึกคักมาก เต็มไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยว ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรผ่านไปมาถนนสายเบตง-ยะรม ต้องขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง เพราะสองข้างทางมีผู้คนจำนวนมาก ยืนถ่ายภาพ ชมความงดงามของปินตูกืรบังมลายู จนกลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ ทำให้บรรยากาศในคืนวันฮารีรายอ ในพื้นที่อำเภอเบตงปีนี้ คึกคักมากเป็นพิเศษ

นายนัทมุดีน บาสะนุง ประธานกลุ่มเยาวชนมุสลิมบ้านบังนังสิแน เล่าว่า ก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน กลุ่มเยาวชนได้ร่วมหารือกับนายมานิส อาบา ผู้ใหญ่ ม.7 ต.ยะรม และชาวบ้านว่าจะใช้เวลาว่างในเดือนรอมฏอน หลังจากละศิลอดไปแล้ว ร่วมกันสร้างปินตูกืรบังมลายู เพื่อต้อนรับเทศกาลฮารีรายออีฎิ้ลฟิตตรี ฮิจเราะห์ศักราช 1444 โดยขอใช้พื้นที่สนามหญ้าของเอกชน อยู่ตรงข้ามตลาดนัดบันนังสิแน ในการก่อสร้าง ซึ่งโครงสร้างของซุ้มประตูทางเข้า-ออก พร้อมกำแพงได้แรงบันดาลใจมาจากมัสยิดอาหรับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ส่วนของหลังคาเป็นสถาปัตยกรรมแบบมินังกาเบา ของประเทศอินโดนีเซีย มีความโดดเด่น  มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมประเทศอินโดนีเซีย  และสะพานข้ามคลองเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมมลายูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำน้ำพุบริเวณคลอง พร้อมสร้างปืนใหญ่คู่ตั้งใว้หน้าประตูซุ้มทางเข้า-ออก ตกแต่งประดับด้วยโคมไฟหลากสี วัสดุส่วนใหญ่ใช้ไม้ไผ่และไม้ตาล ที่มีความแข็งแรงทนทาน หาได้ง่ายในพื้นที่เบตง ปินตูกืรบัง ที่สร้างขึ้นนี้ มีความสูง 10 เมตร ยาว 30 เมตร หลังจากสร้างเสร็จเรียบร้อยในวันนี้ ก็มีผู้มาถ่ายภาพลงในเฟส กลุ่มไลน์ ต่างๆ ทำให้มีพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวเห็นถึงความสวยงาม ทำให้ในค่ำคืนนี้จึงมีประชาชนนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันเป็นจำนวนมาก