วันที่ 24 เมษายน 2566 ศึกเลือกตั้ง 16 เขต ที่จังหวัดนครราชสีมา มีการแข่งขันกันค่อนข้างดุเดือด โดยเฉพาะพรรคใหญ่ แต่ก็คงหนีไม่พ้นเขต 5 ถือว่าเป็นเขตช้างชนช้างและแพ้กันไม่ได้ ซึ่งประกอบไปด้วยอำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย เฉพาะตำบลสัมฤทธิ์ ตำบลชีวาน ตำบลกระเบื้องใหญ่และตำบลท่าหลวง ส่วนอำเภอเฉลิมพระเกียรติยกเว้นตำบลพระพุทธ ตำบลหนองยางและตำบลหนองงูเหลือม โดยพรรคพลังประชารัฐ ส่งนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ เบอร์ 3 แชมป์เก่า ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงชิงชัย ส่วนพรรคเพื่อไทยกลุ่มโรงแป้งมัน ของวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ประกาศแลนด์สไลด์ ทั้งจังหวัด ส่งนายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล เบอร์ 4 ลงท้าชิง แล้วอีกพรรคม้ามืด ที่จะสอดแทรก คือพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส่งนายจักรกฤช (อุ๊บ้านดงพลอง) ผาสุกมูล เบอร์ 5 เข้าประกวดด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีการขับเคี่ยวกันอย่างสุดมัน และในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะได้รู้ว่าใครได้รับชัยชนะ

นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 3 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนแล้วประมาณ 95% โดยเฉลี่ยแล้วจะตกตำบลละ 1 วัน ซึ่งตนจะลงพื้นที่ทุกหมู่บ้านเพื่อทำความเข้าใจปัญหาถึงความเดือดร้อนและนโยบายที่พรรคจะทำในอนาคตบอกกล่าวให้กับพี่น้องประชาชนทราบไม่ว่าจะเป็น อยากให้คนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 300 เป็น 700 , ประกันชีวิต 2 แสน , แก๊ส 423 บาท เหลือ 250 บาท , ลดราคาน้ำมัน , ลดค่าไฟฟ้า   จดทะเบียนเกษตรได้ 3 หมื่นบาท เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และเบี้ยผู้สูงอายุ ตามขั้น 60 ปี รับ 3000 บาท 70 ปี 4000 บาท 80 ปี รับ 5000 บาท , ช่วยสวัสดิการ เด็กแรกเกิด และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาความยากจน จนระดับการขนส่ง อีสานประชารัฐ สร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ ซึ่งตนไม่ได้มีการวิตกกังวลเกี่ยวกับผู้ที่จะเข้ามาชิงชัย เพราะมีการแข่งขันกัน 3 ครั้งก็แพ้ผม 3 ครั้ง ถึงแม้งวดนี้พรรคเพื่อไทยประกาศแลนด์สไลด์  ทั้งจังหวัดตนก็ไม่กลัว เพราะคนที่จะขวางก็คือครอบครัวรัตนเศรษฐ

นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล ผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 4 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เรามั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะเลือกตนเข้าไปเป็น ส.ส.เพราะต้องการเปลี่ยนแปลง จึงต้องการอาสาที่จะเข้ามาแก้ไข โดยเฉพาะในพื้นที่เขต 5 มีปัญหาเรื่องของน้ำแล้ง ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ  ถนนไม่ได้รับการพัฒนา จึงต้องหาทางแก้ไขเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน โดยทางพรรคเพื่อไทย ได้คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ซึ่งมีนโยบายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท , ลดความเหลื่อมล้ำทุกครัวเรือนมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาท , เพิ่มคุณภาพชีวิตค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 2500 บาทต่อเดือน , 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เรียนฟรีมีงานทำ , ลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้าและแก๊สหุงต้มทันที เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน , พักหนี้เกษตรกร 3 ปี รายได้เพิ่มเป็น 3 เท่า , เร่งรัดออกโฉนดจัดหาที่ดินทำกิน , ปราบปรามยาเสพติด และแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5