"หนุ่มใหญ่" ป่วยโรคมะเร็งรุมเร้า ตัดสินใจนอนพาดรางให้รถไฟทับเสียชีวิต
2 พ.ค. 2566, 08:57
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธรรมวัฒน์ สุขีวัฒน์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งมีคนถูกรถไฟชนทับเสียชีวิตที่หมู่ 3 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ทราบพร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สำนักงานใหญ่ ไปที่เกิดเหตุทันทีพบกับนายอาทิตย์ จันดี นายก อบต.วังเย็น มาให้กำลังครอบครัวผู้เสียชีวิต
ที่เกิดเหตุเป็นทางรถไฟสูงจากพื้นปกติ 2 เมตร เยื้องวัดวังเย็น พบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้ากลางรางรถไฟ หันหัวไปทางทิศตะวันตก ใส่เสื้อสีน้ำเงินนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ทราบชื่อคือ นายสุภาพ สดครั่ง อายุ 54 ปี ที่อยู่ 59 ม.3 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สภาพศพขาขาดสองข้างช่วงหัวเข่า แขนซ้ายขาด นิ้วมือขวาหักทุกนิ้วหนังถก แผลถลอกทั้งตัว ที่หน้าท้องพบการใส่ท่อให้อาหาร ห่างออกไป 10 เมตร พบท่อนขาข้างขวา ตกอยู่ริมทางรถไฟ ส่วนท่อนขาข้างซ้ายแหลกเป็นชิ้นๆ และอีก 100 เมตรพบชิ้นส่วนท่อนแขนซ้ายตกอยู่ข้างรางรถไฟ ใกล้ศพยังพบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูกองอยู่ ส่วนขบวนรถไฟมาชนทับคือขบวน 259 ธนบุรี-น้ำตก มุ่งหน้าไปไทรโยค โดยมีพนักงานขับรถไฟโทรแจ้งตำรวจว่ามีคนนอนให้รถไฟชน
น.ส.ชลดา สิริจิตรกาน อายุ 47 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ได้ให้ข้อมูลว่าพี่ชายเพิ่งออกจาก รพ.พหลพลพยุหเสนา บ้านกับจุดที่เกิดเหตุห่างแค่ 200 เมตร กลับมาบ้านแล้วปั่นจักรยานของหลานมาตรงนี้แล้วขึ้นไปนอนพาดบนรางรถไฟ พี่ชายป่วยเป็นมะเร็งหลอดลม จึงต้องให้อาหารทางสายแบบเจาะที่ท้อง รักษาตัวมาหลายปี รถจักรยานสีเหลืองมีป้ายหมายเลข 16242 ชาวบ้านต่างมามุงดูและจดเลขไปเสี่ยงดวง
น.ส.ชลดา สินิจิตรกาน เล่าว่า วันนี้ปกติเขาไม่เคยปั่นจักรยาน คือเขานอนอยู่บ้านตลอดและมีพี่สาวเลี้ยงดูอยู่ คือหมอไม่ให้กินอาหารทางปาก เพราะเขาเป็นมะเร็งหลอดลม เป็นก้อนเนื้อ หมอเจาะตรงช่องท้องเขา และให้อาหารทางสาย พี่สาวคนโตก็ปั่นอาหารให้ทุกวันๆ แล้วทีนี้เขาเกิดอาการเครียด แล้วเขาก็คิดมากโน่นนี่นั่น วันนี้หนูไปซื้อของขบเคี้ยวให้เขา หนูก็บอกว่าหมอบอกกินไม่ได้ กินเดี๋ยวจะอันตราย ถ้ากินแล้วอันตราย กินแล้วต้องเข้า รพ.อีก มันจะเดือดร้อนนะ ให้กินบ้าง ใครจะรับผิดชอบ จักรยานคันนั้นของหลาน แกปั่นออกมา ไอ้เราก็ตามไหว ตามหา หลานสาวก็ตามหาพบว่าเขาปั่นไปปั่นมา ช่วงจังหวะที่รถไฟแล่นมาพอดี แล้วรถไฟเขาจอด เราก็นั่งมองเอ๊ะว่าจอดทำไม ใจหายเลยเรียกพี่สามออกมาดู จนท.รถไฟก็ลงมาดู ไม่พบชื้นเนื้อ เพื่อนบ้านมาบอกคนที่บ้านว่าพี่ชายมานอนให้รถไฟทับตาย เขาตั้งใจเลย นอนพาดรางรถไฟแล้วใช้ผ้าสีชมพู แล้วรถไฟเขาจอดไม่ทัน เขาเป็นมะเร็งหลอดลมมีก้อนเนื้อที่คอ เขาเคยฆ่าตัวตายโดยการใช้สายไฟฟ้าพันกับนิ้วจิ้มปลักไฟให้ดูดพอเดียวมาตรตฐาน เข้ามีครอบครัวแต่หย่าร้างไปมีแต่ลูกสาวเขากำลังมา
ทางด้าน จนท.ตำรวจและแพทย์เวรได้คอมูลว่า ด้านญาติเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่าผู้ตายอยากกินขนมแต่กินไม่ได้ และ จนท.มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ที่เคยมารับมาส่งผู้ตายได้ให้ข้อมูลว่าป่วยหลายโรคเพิ่งจะออกจาก รพ.คาดว่าน่าจะเครียดจนคิดสั้น พี่สาวและน้องสาวไม่ติดใจการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป