เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2566  เวลา 11.00 - 16.00 น.  สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ประจำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รับมอบนมแม่ช้างบ้าน โดยทำการรีดสด จาก สพ.ญ.ลาดทองแท้ มีพันธุ์ สัตวแพทย์ประจำมูลนิธิพระคชบาล และวังช้างอยุธยา แล เพนียด

ตามที่ได้รับการประสานงานจาก สพ.ญ.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) กจส. สอป. เพื่อนำมาให้ลูกช้างป่าเพศผู้ "ตุลา" กินเพิ่มเติมจากการกินนมผงแบบชง โดยลูกช้างป่าตัวดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เลี้ยงดูแลและรักษา ณ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 ( กระบกคู่) จังหวัดฉะเชิงเทรา

ทั้งนี้ในลูกช้างทั่วไปจะกินนมแม่เป็นอาหารหลักในช่วงขวบปีแรก และเมื่อเริ่มกินอาหารอื่น เช่น หญ้า ผลไม้ อ้อย ฯลฯ แล้วจึงจะลดการกินนมลงจนกระทั่งหย่านมที่อายุประมาณ 2.5 - 3 ปี

อย่างที่เรารู้กันว่าช้างเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ น้ำหนักมาก จึงมีการพัฒนากระดูกให้มีความแข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักตัวมหาศาล การให้ช้างได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกโดยเฉพาะในวัยเด็ก/วัยที่กำลังเจริญเติบโต จึงมีความสำคัญต่อสุขภาพช้างในระยะยาวอย่างยิ่ง

สำหรับน้ำนมแม่ช้างนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเสริมสร้างกระดูกให้มีความแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรคโดยเฉพาะไวรัสเฮอร์ปีส์ หรือ EEHV นมแม่ช้างยังช่วยทำให้ลูกช้างได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ดังนั้นลูกช้างจึงต้องได้รับน้ำนมจากแม่ช้างอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้ลูกช้างมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เครียด ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย ตุลาเองเป็นลูกช้างป่าพลัดหลง และยังมีการตรวจพบไวรัสเฮอร์ปีส์ โรคที่เกิดกับช้างในวัยเด็ก ทางทีมสัตว์แพทย์และผู้ดูแลจึงยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกช้างมีสุขภาพที่ดี ทั้งนี้ทางมูลนิธิพระคชบาล และวังช้างอยุธยา แล เพนียด ก็จะได้อนุเคราะห์นมแม่ช้างให้ต่อไปอีก