อดีต ผอ.รร.วิสุทธรังษี และพรรคพวก เข้ายื่นหนังสือ ผู้ว่าฯ ร้องขอความเป็นธรรมถูกทำร้ายร่างกาย
3 ต.ค. 2562, 16:28
จากกรณี นายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน ได้ร้องเรียนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการบริหารงานไม่โปร่งใสของ นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงโรงเรียน อันกระทบต่อความรู้สึกของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และชาวกาญจนบุรี โดย นายรพี ได้ขึ้นปราศรัยบนหลังคารถ ซึ่งจอดปิดกั้นถนนแสงชูโตขาออกจากตัวเมืองกาญจนบุรี บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียนวิสุทธรังษี ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมกับเรียกร้องให้เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 (สพม.8) สั่งการให้ย้าย นายหงษ์ดี ออกนอกพื้นที่ เพื่อให้เกิดกระบวนการสืบสวนข้อร้องเรียนให้เกิดความเป็นธรรม แต่ปรากฏว่า ได้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย นายศุภชาติ ถนอมมิตร อดีต ผอ.รร.เทพมงคลรังษี และผู้สื่อข่าวท้องถิ่น รวม 3 คน โดยมีการจับกุมผู้ก่อเหตุที่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุน ผอ.รร.วิสุทธรังษี ไปดำเนินคดีที่ สภ.ท่าม่วง จนกลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างกว้างขวาง
โดยหลังเกิดเหตุ นายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมการบริหาร และจรรยาบรรณ ของ นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี จ.กาญจนบุรี โดยขอให้เร่งรัดในการดำเนินกาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนและสังคมคลายความสงสัย ขณะที่สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงข่มขู่คุกคามทำร้ายร่างกายสื่อมวลชนขณะปฏิบัติหน้าที่ นั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 3 ต.ค.62 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายศุภชาติ ถนอมมิตร อายุ 67 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเทพมงคลรังษี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ลาดหญ้า และอดีตอาจารย์โรงเรียนวิสุทธรังษี นายประพฤติ มลิผล หรือ เล็ก บ้านใต้ อายุ 75 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น และ นายภาคภูมิ ศรีเศรษฐไกร อายุ 37 ปี ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเคเบิลทีวี ราชบุรี ได้เดินทางเข้าพบ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่ห้องทำงานฯ ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดย นายศุภชาติ กล่าวว่า ตนในฐานะอดีตครูผู้สอนในโรงเรียนแห่งนี้ และมีบ้านพักอาศัยติดกับโรงเรียน เมื่อได้ยินว่ามีการประท้วงจากรถขยายเสียง จึงมาร่วมสังเกตการณ์ เพราะเห็นว่าศิษย์เก่ามาประท้วง ในขณะที่กำลังจะแยกย้าย ได้มีชายฉกรรจ์เดินปรี่ เข้ามาชกต่อยตน โดยไม่ทันตั้งตัว จึงล้มลงหัวฟาดพื้น รู้สึกปวดศีรษะและมึนงงไปชั่วขณะ รู้ตัวอีกทีมีนักเรียน และผู้คนรุมล้อม และนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา
ขณะที่ นายประพฤติ กล่าวว่า ตนเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ผ่านบริเวณดังกล่าวเห็นมีการชุมนุม จึงได้ลงจากรถพร้อมกล้องถ่ายรูปคู่กาย เพื่อสังเกตการณ์ เห็นเหตุการณ์ที่ นายศุภชาติ ถูกทำร้าย จึงพยายามจะบันทึกภาพเหตุการณ์ และคนร้าย แต่กลับถูกชายฉกรรจ์ อีกสามคนเข้ามาล็อคคอ และต่อยที่ชายโครง โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมิได้รับอันตรายมากไปกว่านั้น ซึ่งตนเพียงแค่ทำหน้าที่สื่อ มิได้เข้าร่วมประท้วงในเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ด้าน นายภาคภูมิ กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นผู้สื่อข่าว เมื่อทราบว่า ในวัน เวลา ดังกล่าว จะมีศิษย์เก่าประท้วงขอให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี กรณีความไม่โปร่งใสในการบริหาร และเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของชาวกาญจนบุรีอย่างมาก จึงได้เดินทางไปทำข่าว เมื่อการประท้วงจากแกนนำศิษย์เก่าเสร็จสิ้น ตนจึงเดินทางกลับ ระหว่างที่กำลังข้ามถนน อยู่บนเกาะกลางได้มีชายฉกรรจ์ เข้ามาต่อยที่หน้าอกและหัวไหล่ และข่มขู่ว่า อย่ามาให้เห็นหน้าอีก ซึ่งชายฉกรรจ์ทั้งหมดที่ร่วมทำร้ายร่างกาย คือคนร่วมถือป้ายสนับสนุนผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี
ซึ่ง นายศุภชาติ นายประพฤติ และ นายภาคภูมิ ทั้งสามระบุว่า พวกตนเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์และนำเสนอข่าวเท่านั้น แต่กลับถูกทำร้ายร่างกาย ส่งผลให้สภาพจิตใจย่ำแย่ หวาดกลัว และหวาดระแวงในความปลอดภัย ในการใช้ชีวิตประจำวัน จึงขอวิงวอนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการตรวจสอบ ว่าบุคคลที่เข้ามาทำร้ายพวกตนทั้ง 3 คนนั้น เป็นคนในพื้นที่หรือไม่ และใครเป็นผู้สั่งการ ทราบในเบื้องต้นว่า ผู้ที่ทำร้าย นายศุภชาติ มีสารเสพติด เพิ่งพ้นโทษจากคดียาเสพติด และคดีลักทรัพย์ ดังนั้นจึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมหาสาเหตุที่พวกตนถูกทำร้ายในครั้งด้วย
โดยใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 30 นาที ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับเรื่องไว้พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป