เปิดใจ "แม่สาววัย18" ถูกตำรวจยิงจนพิการ เผยนาทีเกิดเหตุ - ได้รับเยียวยาแค่ 3 หมื่น
3 ต.ค. 2562, 17:48
ตามที่ได้เกิดเหตุ นางสาวชนากานต์ คงนะ อายุ 18 ปี ถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกาญจนบุรี เข้าที่ขาด้านซ้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกขาแตก เส้นเอ็นขาดและเส้นเลือดใหญ่ขาด จนเดินไม่ได้ ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา โดยเบื้องต้นคาดว่า จะต้องใช้เวลาในการรักษาตัวนานนับปีและอาจจะไม่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนปกตินั้น
อ่านข่าว : แม่ร้อง "ลูกสาววัย 18" โดนตำรวจใช้เอ็ม 16 ยิงคาเก๋งจนพิการ
ล่าสุดวันนี้ 3 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางฉัตรสุวรรณ ดวงใจภักดี แม่ของนางสาวชนากานต์ ได้เดินทางที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อเข้าพบกับ พันตำรวจเอกธีรพงศ์ ฤทธิ์จรูญ กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว โดยแม่ของนางสาวชนากานต์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ คือวันที่ 24 สิงหาคม 2562 ขณะที่ลูกสาวของตนได้ออกไปทานข้าวกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มาติดพันและหลังทานข้าวเสร็จ ได้แวะไปหาเพื่อนของชายหนุ่มคนดังกล่าว ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จู่ๆ ได้มีรถกระบะคันหนึ่งขับเข้ามาประกบและใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่รถคันที่ลูกสาวของตนนั่งอยู่ และกระสุนได้ถูกเข้าที่ขาซ้ายของลูกสาวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยหลังลูกสาวของตนถูกยิง ชายหนุ่มที่มาติดพันลูกสาว ได้พยายามขับรถหลบหนีรถกระบะคันที่มาประกบยิง เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นรถของคู่อริ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะจอดรถทิ้งไว้และวิ่งหลบหนีไป
โดยทิ้งลูกสาวของตนให้ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถ กระทั่ง กระบะคันที่ประกบยิง ได้เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดและนำตัวลูกสาวของตนส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา พร้อมทั้ง ทำการตรวจค้นรถคันที่ลูกสาวของตนนั่งมา แต่ก็ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายใดๆ หลังลูกสาวของตนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ชุดที่ยิงโดนลูกสาวของตน ได้เข้ามาติดต่อพูดคุยและยอมรับว่า ยิงพลาดไปโดนลูกสาวตน พร้อมขอแสดงความรับผิดชอบในการดูแลจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้ พร้อมจะรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด แลกกับการที่ขอให้ทางครอบครัวไม่ติดใจเอาความและไม่แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งในตอนนั้น ตนได้เรียกค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดจำนวน 3 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอเวลาพิจารณาสองวัน ก่อนจะมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นมาให้จำนวน 30,000บาท
จากนั้น ก็ไม่เคยติดต่อมาอีกและไม่เคยเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ซึ่งตนที่เป็นแม่ก็ไม่ได้มีเงินมากมาย เมื่อลูกสาวต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตนและสามีพร้อมด้วยลูกชาย ก็ต้องผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล จนไม่สามารรถทำงานหาเงินได้ตอนนี้ ครอบครัวก็ไม่มีรายได้ แถมเงินที่จะพาลูกสาวไปรับการรักษาเพิ่มเติมก็ไม่มี จึงอยากมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ช่วยสืบสวนดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวของตนและครอบครัว
นอกจากนี้ ตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ก่อเหตุมาแสดงความรับผิดชอบ เพื่อที่ตนจะได้สามารถพาลูกสาวไปรับการรักษาและเพิ่มโอกาสที่จะสามารถกลับมาเดินได้ตามปกติอีกครั้ง โดยหลังการพูดคุยกับผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งในวันเกิดเหตุเป็นการปฎิบัติหน้าที่ร่วมกันของชุดปราบปรามยาเสพติด ที่มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมกันปฎิบัติการ ซึ่งจนถึงตอนนี้ ได้มีการทำหนังสือแจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังแต่ละหน่วยงานแล้ว จากนี้ ก็จะมีการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่
ขณะที่ นายแพทย์สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาพร้อมคณะแพทย์ผู้ทำการรักษา นางสาวชนากานต์ ได้เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของนางสาวชนากานต์ว่า จากการผ่าตัด แพทย์พบว่ากระดูกแหลก ต้องใส่เหล็กยึดกระดูกร่วมบริเวณใต้เข่าซ้ายและพบว่ามีเส้นเลือดขาด จึงต้องส่งตัวไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการรักษา โดยขณะนี้ ผู้ป่วยยังมีแผลที่ขาซ้าย มีเหล็กยึดตรึงกระดูกอยู่ ยังมีอาการปวดแผล และปวดขา ได้รับยาแก้ปวดแบบมอร์ฟีนวันละ 6 เข็ม โดยระยะเวลาการรักษา คาดว่าไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งคนไข้มีภาวะความเครียดเฉียบพลัน ฝันร้าย หงุดหงิดง่าย โกรธ กังวล นอนไม่หลับ อาจกลายเป็นภาวะผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรง ขณะนี้แพทย์อยู่ระหว่างให้ยาคลายเครียด คุมอารมณ์ และควบคุมการใช้ยาแก้ปวด ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการติดตามอาการเป็นระยะ โดยอาจมีผลต่อเนื่องระยะยาวเป็นปี