"สามีน้อยใจ" ภรรยาไปทำงานเมืองนอก ก่อนแขวนคอพร้อมลูก โชคดีมีคนช่วยทัน
3 ต.ค. 2562, 19:27
วันนี้ (3 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 117 หมู่ 9 บ้านป่าก้าว ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม หลังทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา มีเหตุสามีของเจ้าของบ้าน ได้จับลูกชายวัย 2 ขวบ แขวนคอกับขื่อหน้าบ้าน หลังจากนั้นตัวสามีเจ้าของบ้าน ได้แขวนคอตายตาม โดยขณะก่อเหตุ ตัวสามีของเจ้าของบ้าน ได้มีการวีดีโอคอล ผ่านทาง messenger ให้กับตัวภรรยา ที่เป็นเจ้าของบ้าน และทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ ซึ่งทางตัวภรรยาได้โทรศัพท์กลับมาหาผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ให้มาทำการช่วยเหลือทันทีเพราะเป็นห่วงลูกชาย
แต่โชคดีที่ขณะมีการวิดีโอคอล ตัวของพี่ชายของภรรยาที่เป็นเจ้าของบ้าน ที่อยู่ใกล้กันได้ยินเสียงที่มีการพูดคุยระหว่าง 2 สามีภรรยา จึงมาดูพบว่าหลานชายวัย 2 ขวบ และตัวสามีเจ้าของบ้านที่เป็นน้องเขย ผูกคอกับขื่อหลังคาหน้าบ้าน จึงนำมีดตัดเชือกช่วยชีวิตหลานชาย รีบนำส่งโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม และช่วยน้องเขย ก่อนที่เพื่อนบ้านโทรแจ้ง 1669 และแจ้ง 191 และหน่วยกู้ชีพมาช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลฯ ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัยทั้ง 2 คน
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง บ้านเลขที่ 117 พบ นางจำรัส จันทะสิงห์ ผญบ.บ้านป่าก้าว พาตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ พบที่แคร่หน้าบ้านมีเชือกไนล่อนสีเขียว และสีแดง ที่ถูกตัดอย่างละ 1 เส้น วางอยู่ และมีดอีโต้ 1 เล่ม ขณะที่คานหน้าบ้าน มีร่องรอยถูดมีดสับ 2 แห่ง ที่เป็นจุดที่มีการแขวนคอ นอกจากนี้ยังพบถังแก็สที่ล้มอยู่ใต้จุดที่ใช้ปีนแขวนคอ ขณะที่พื้นหน้าบ้านมีรอยเลือดกองอยู่ 1 แห่ง และรอยเลือดติดที่รองเท้าแตะที่วางอยู่ใกล้กัน
นางจำรัสฯ ผญบ.ป่าก้าวหมู่ 9 เล่าว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จาก นางนฤมล ฤทธิ์สิงห์ อายุ 34 ปี ลูกบ้านซึ่งไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ว่า นายวิรุจน์ อะรัมพระ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 9 บ้านป่าก้าว ซึ่งเป็นสามี ได้จับ ด.ช.เอ นามสมมุติ อายุ 2 ปี 6 เดือน ลูกชายแขนคอกับขื่อหน้าบ้าน และกำลังผูกคอตายตามลูก พร้อมกับวีดีโอคอล ทาง messenger โชว์ จึงนำ ผช.ผญบ.ไปตรวจสอบ
ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว พบ นายวิษณุ ฤทธิสิงห์ อายุ 40 ปี พี่ชายนางนฤมล ซึ่งอยู่บ้านใกล้กัน ใช้มีดตัดเชือกที่แขนคอน้องเอ ซึ่งถูกจับแขนคอใบหน้าเขียว คาดว่าหมดลมหายใจไปแล้ว ผู้ใหญ่บ้านจึงอุ้มร่างของหนูน้อยที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ลงมาปั๊มหัวใจช่วยชีวิต และตัดเชือกไนล่อนที่แขนคอนายวิรุจน์ ลงมาจากเขื่อตกลงมาศีรษะกระแทกถังแก๊ส ทำให้ศีรษะแตก และปั๊มหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม ล่าสุดอาการปลอดภัยทั้งพ่อและลูก
ด้าน นายวิษณุ ฤทธิสิงห์ พี่ชายนางนฤมลฯ เล่าว่า ตนแต่งงานแยกครอบครัวแล้ว วันเกิดเหตุตนเดินทางกลับมาเยี่ยมแม่ พบว่า นางนฤมลน้องสาว เพิ่งเดินทางไปทำงานนวดที่สิงคโปร์ไปประมาณ 1 สัปดาห์เศษ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ก่อนเกิดเหตุ ตนไปเก็บรังต่อกลับมาบ้าน และกำลังจะเข้านอน แต่เพราะดึกสงัด และบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร ทำให้ตนได้ยินเสียงน้องสาวร้องไห้และด่าสามีทางโทรศัพท์ว่า "มึงคือชั่วแท้" ตนจึงโทรศัพท์ไปหาน้องสาว ซึ่งน้องบอกตนว่า นายวิรุจน์จับน้องกรแขนคอกับขื่อหน้าบ้าน และผูกคอตายตาม โดยถ่ายวีดีโอคอลให้ดู
นายวิษณุ เล่าต่อว่า ตนจึงรีบวิ่งออกมา ก็พบน้องเอ หลานชายถูกจับแขนคอหน้าเขียวหมดสติ พร้อมกับนายวิรุจน์ ตนจึงตะโกนเรียกญาติและชาวบ้านมาช่วย ตนรึงรีบใช้มีดตัดเชือกอุ้มร่างน้องเอ ลงมา ปั๊มหัวใจ ผายปอด จนชีพจรน้องเอ กลับมา จากนั้นก็ใช้มีดตัดเชือกที่แขนคอนายวิรุจน์ น้องเขย ตกลงมาศีรษะกระแทกถังแก๊สแตก เพราะว่าตัวใหญ่และหนัก ตนอุ้มไม่ไหว จากนั้นก็ปั๊มหัวใจ รีบนำทั้ง 2 ส่งโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งอาการปลอดภัยทั้งคู่ ซึ่งตอนนั้นตนไม่กล้าเปิดเข้าไปดูในบ้าน เพราะน้องสาวยังมีลูกอีก 2 คน นอนอยู่ กลัวว่าตัวพ่อจะก่อเหตุทำร้ายลูกอีก 2 คน ก่อนมาลงมือแขวนคอ
ทาง นางจำรัส จันทะสิงห์ ผญบ.บ้านป่าก้าว เปิดเผยอีกครั้งว่า นางนฤมล แต่งงานอยู่กินกับนายวิรุจน์ มาเกือบ 20 ปี มีบุตรชาย 3 คน คนโตอายุ 16 ปี คนกลางอายุ 12 ปี และน้องเอ อายุ 2 ปี 6 เดือน นายวิรุจน์มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ระยะหลังไม่ได้ทำงาน เพราะป่วยโรคเก๊าต์ ทำให้นางนฤมลต้องเป็นเสาหลักของบ้าน และเมื่อเดือนเมษายน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มาสร้างบ้านโครงการบ้านอุ่นรัก ซ่อมสร้างบ้านมอบให้ นางนฤมลไปทำงานนวดแผนโบราณ หาเงินเลี้ยงครอบครัวและลูกทั้ง 3 คน เมื่อต้นปี 62 ก็เคยไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย 1 เดือน นายวิรุจน์ก็พยายามผูกคอตายที่ต้นมะขาม แต่ลูกชายทั้ง 3 คน ได้มาห้ามให้พาพ่อลงมา
นางจำรัส เปิดเผยต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ นางนฤมล ได้เดินทางไปทำงานนวดแผนโบราณที่ประเทศสิงคโปร์กับญาติทางสามี เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ และมีการถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก ทำให้นายวิรุจน์ไม่พอใจ กล่าวหาว่าญาติพาเมียไปทำงานขายตัว จากนั้นก็แชท messenger หาเมียลักษณะหึงหวง น้อยใจ ที่เมียไม่กลับมา แม้จะบอกว่าลูกไม่สบาย เมียก็ไม่สนใจ เมียเปลี่ยนไป และจะฆ่าตัวตายโดยเอาลูกไปด้วย และไม่ต้องกลับมาเผา จากนั้นก็วีดีโอคอลโชว์ให้เมียดู ด้วยการอุ้มน้องเอ ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านกับพี่ชาย 2 คน ออกมาแขนคอ และผูกคอตัวเองตายตาม โชคดีที่มาช่วยทัน ก่อนจะเป็นโศกนาฏกรรม
ต่อมาเวลา นายสถิต คำลาเลี้ยง นายอำเภอประจักษ์ศิลปาคม และนางวัฒนา สกุลทองเสรี ปลัดอำเภอประจักษ์ศิลปาคม ได้เดินทางไปโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม เพื่อเยี่ยมน้องเอ ซึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ มีนางบัวไข ฤทธิ์สิงห์ อายุ 60 ปี ยายคอยเฝ้าหลานไม่ยอมห่าง ซึ่งน้องเอ มีอาการตื่นตกใจ และร้องไห้งอแง ที่ลำคอยังพบรอยแดงจากเชือกรัด จากนั้นได้ไปเยี่ยมนายวิรุจน์ ซึ่งนายอำเภอ และปลัดอำเภอได้ถามถึงสาเหตุ นายวิรุจน์ เล่าว่าทั้งน้ำตาว่า เกิดเพราะความยากจน ภรรยาต้องไปทำงานไกล และภรรยาเปลี่ยนไป ทำให้เกิดอารมณ์หึงหวง จึงได้ทำประชดเมียเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ซึ่งนางบัวไข ฤทธิ์สิงห์ อายุ 60 ปี ยายเปิดเผยว่า หลังนำร่างลงมา หลานไม่หายใจ ใบหน้าเขียว นึกว่าตายแล้ว แต่พอปั๊มหัวใจและผายปอด หลานก็มีชีพจรกลับมา และรีบนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนไหว้เจ้าปู่ตาประจำหมู่บ้านมาตลอดเส้นทาง ให้ช่วยคุ้มครองหลาน และวันนี้น้องเอ อาการดีขึ้นแล้ว จำยายได้ และขอดื่มนมได้แล้ว ส่วนลูกเขยตนไม่ขอไปเยี่ยมและไม่ให้อภัยเด็ดขาด เพราะรู้สึกแค้นมาก จะเลี้ยงหลานเอง และจะแจ้งความดำเนินคดีข้อหา “พยายามฆ่า” แน่นอน
ทางด้าน นางวัฒนา สกุลทองเสรี ปลัดอำเภอประจักษ์ศิลปาคม เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นายอำเภอได้มาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว ทั้งลูกและพ่อ ซึ่งนายวิรุจน์ และสัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก ทุกปัญหามีทางแก้ไขได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี จะเข้ามาพบครอบครัวและแก้ไขปัญหา ส่วนคดีก็ให้ดำเนินตามกฎหมาย ต่อไป
คลิป