วันนอร์ ควง ทวี ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย #แยกเปิดเวทีคู่ขนานมัดใจประชาชน เชื่อ! 3 จังหวัดชายแดนใต้แลนด์สไลด์!!!!
8 พ.ค. 2566, 10:56
เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 7 พ.ค.66 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หน.พรรคประชาชาติ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้แยกกันเป็นแกนนำพรรคประชาชาติ เปิดเวทีคู่ขนานปราศรัยหาเสียงในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ณ สนามกีฬาเทศบาล เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ช่วยหาเสียงให้กับนายอัฟฟาน หะยียูโซะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 4 และปราศรัยหาเสียงช่วยนายเจ๊ะซู ตาเหย็บ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 4 โดยได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน เดินทางมารับฟังนโยบายเวทีละประมาณ 7,000 คน ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งการปราศรัยหาเสียงในครั้งนี้ มีนายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ นายวรวีย์ มะกูดี นายมุข สุไลมาน รอง หน.พรรคประชาชาติ นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ อดีตรองอธิบดีอัยการ ในฐานะ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ช่วยตระเวนสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยคู่ขนานในครั้งนี้ด้วย
โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หน.พรรคประชาชาติ ได้ปราศรัยหาเสียงชูนโยบาย สังคมพหุวัฒนธรรม การกระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่น สร้างรัฐสวัสดิการตั้งแต่ครรภ์มารดาเกิดถึงเสียชีวิต เริ่มตั้งครรภ์ถึงช่วงบุตรอายุ 7 ปี จะได้รับเงินอุดหนุน 4,500 บาทต่อเดือน รวมถึงเบี้ยผู้สูงอายุ ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆ ได้ลอกนโยบายของพรรคประชาชาติไปหาเสียงกันทั้งนั้น ถ้าพี่น้องประชาชนรักพรรคประชาชาติ ซึ่งถือว่าเป็นพรรคของคนภาคใต้ ก็ต้องเลือกทั้งคนและพรรคในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ทุกอย่างในบ้านเราต้องเปลี่ยนแปลง
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้ปราศรัยชูนโยบายพรรคประชาชาติคือพรรคพหุวัฒนธรรมเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 จากคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนให้การสนับสนุน แล้วการเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องประชาชนจะทอดทิ้งพรรคการเมืองของท่าน หรือจะเลือกให้พรรคการเมืองของท่านเติบโตยิ่งขึ้น จนเป็นพรรคมหาอำนาจที่เป็นปากเสียงให้กับพี่น้องประชาชนในสภาฯ พรรคประชาชาติไม่ใช่เป็นพรรคเฉพาะกิจ เราให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนที่เชื้อชาติ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คนระดับรากหญ้าสามารถลืมตาอ้าปาก ไม่เหมือนบางพรรคการเมืองเขามองและให้ความสำคัญคนรวยมาก่อน ที่จะให้ความสำคัญแก่พี่น้องประชาชน ดังนั้นการเลือกตั้งในครั้งนี้สัญญาที่พี่น้องประชาชนจะช่วยกันลงคะแนนเสียงให้กับพรรคประชาชาตินั้น มันถึงเวลาแล้วถ้าเลือกก็ให้เลือกทั้งพ่อทั้งลูก คือ เลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและผู้สมัคร ส.ส.แบบระบบบัญชีรายชื่อ มิเช่นนั้นพ่อกับลูกจะอยู่ช่วยกันแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างไร
"และจากสัญญาใจที่พี่น้องประชาชนให้คำมั่นสัญญาในครั้งนี้ ผมเชื่อว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคประชาชาติจะได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต เข้าไปเป็นปากเสียงให้กับพี่น้องประชาชน จำนวน 13 คน หรือแลนด์สไลด์ในชายแดนใต้บ้านเรา"