ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ร.ต.อ.กาฬสิน ปากวิเศษ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน ที่บริเวณคูเมืองใต้ อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี จำนวน 6 คัน มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี และสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี เข้าช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่  25/6 บ้านคูเมืองใต้ ตำบลรั้วใหญ่ พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านไม้ ชั้นเดียว (หลังด้านหน้าบ้าน) เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงรีบระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ้านที่อยู่ติดกัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบบ้านหลังดังกล่าวถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลังเหลือแต่เสาปูน และพบรถซาเล้งที่จอดอยู่ข้างบ้านถูกไฟไหม้เหลือแต่โครงกลายเป็นเศษเหล็ก

จากการสอบถามนายเอก มณฑล อายุ 75 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่าตนมี 2 หลังปลูกหันหลังชนกันเป็นบ้านไม้สองชั้น บ้านที่อยู่ด้านหลังนี้มีตนอาศัยอยู่คนเดียว สวนหลังที่อยู่ด้านหน้าคือหลังที่ถูกไฟไหม้ ไม่มีคนอาศัยอยู่เอาไว้เก็บของเป็นบ้านชั้นเดียว ขณะเกิดเหตุตนนอนอยู่ในห้องนอน ของบ้านอีกหลัง ช่วงเกิดเหตุตนได้ยินเสียงดัง เปรี๊ยะๆ เหมือนไม้แตก จึงออกมาดูก็เหตุเปลวไฟกำลังลุกไหม้ จึงใช้น้ำสาดไป 2-3 ถัง แต่ไม่เป็นผล ไม่สามารถดับไฟได้ หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยพาออกมาจากบ้าน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็เข้ามาช่วยดับไฟ ส่วนสาเหตุตนไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงเดินดูแต่ไม่เจอต้นตอของกลิ่น จากนั้นไม่นานก็เห็นไฟลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าว อย่างรวดเร็ว จนเสียหายทั้งหลังโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ชาวบ้านต่างพากันวิพากษณ์วิจาร์กันว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากอากาศร้อนจนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ที่รถซาเล้ง ซึ่งจอดอยู่กลางแดด ก่อนจะลุกลามเข้าบ้านเนื่องจากที่หน้าบ้านมีของเก่าที่ลุงเก็บสะสมไว้ขายจำนวนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป