วันที่ 9 พ.ค. 66  คลิปกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในวัดกลางถนน  พุทธสถานวัดแจ้ง  หมู่ที่ 1  ตำบลไชยภูมิ  อำเภอไชโย  จังหวัดอ่างทอง  จับภาพในช่วงเวลา 01.45 น. ของวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา  พบภาพหัวขโมย จำนวน 2 คน  คาดเป็นผู้ชายและผู้หญิง  ใช้ผ้าคลุมหัวเดินและคลานเข้าไปภายในวัด  โดยใช้เวลาหาทรัพย์สินมีค่าอยู่นานประมาณ 5 นาที  ก่อนที่จะยกตู้บริจาคเงินภายในวัดแล้วหลบหนีไป

ทางด้าน นาย สกุล  วิถีเถื่อน อายุ 77 ปี  ผู้ดูแลวัด  ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.มานิตย์  นาคไพบูลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ไชโย  โดยเล่าให้ฟังว่า  ในช่วงเกิดเหตุตนเองนอนเฝ้าอยู่ในห้องด้านในเสียงเงียบมากไม่ได้ยินอะไรเลย  มารู้อีกทีมีแสงของไฟฉายทำให้ตนเองต้องสะดุ้งตื่น  เมื่อออกจากห้องมาดูในตอนเช้า  พบว่าตู้บริจาคที่มีเงินอยู่ด้านในประมาณ 2,000 บาท ถูกขโมยหายไป  พร้อมเงินของตนเอง จำนวน 3,000 บาท  อยู่ในกระเป๋าสตางค์แขวนอยู่ภายย่ามภายในห้องนอนหายไป  โดยมาพบตู้ไม้บริจาคพร้อมกระเป๋าสตางค์  ถูกทิ้งไว้ที่บริเวณในห้องน้ำด้านหลังวัด  ซึ่งความเสียหายถูกขโมยเงินไปรวมประมาณ 5,000 บาท 
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย  ได้ทำการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด  ทำให้ทราบตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนแล้ว  เตรียมเชิญตัวมาผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน  มาทำการสอบสวนขยายผล  เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

สำหรับ วัดกลางถนน พุทธสถานวัดแจ้ง นั้นเป็นบริเวณสถานที่วัดไชยภูมิ  และเมื่อวัดไชยภูมิได้ย้ายไปสร้างใหม่ยังสถานที่ชายแม่น้ำเจ้าพระยา  ห่างจากจุดดังกล่าวประมาณ 700 - 800 เมตร  ทำให้ต้นโพธิ์อาถรรพณ์ วัดกลางถนน รกร้างว่างเปล่าเป็นป่าทึบ  และมีต้นโพธิ์ขึ้นสูงเด่นมานนานนับร้อยปี  เป็นที่เล่าลือว่ามีผีดุมาก  ที่บริเวณต้นโพธิ์อาถรรพณ์นั้น  ในสมัยก่อนเป็นสุสานฝังเด็กที่เสียชีวิตจำนวนหลายร้อยศพ  ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กทารกที่ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น  เมื่อเสียชีวิตแล้วจะไม่เผาแต่จะนำมาฝังไว้ที่บริเวณโคนต้นโพธิ์แห่งนี้  เนื่องจากเป็นที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง  และยังเป็นที่มีอยู่ของเจ้าแม่เกล็ดแก้ว  มีบริวารเป็นงูอาศัยอยู่โคนต้นโพธิ์จำนวนมาก  เมื่อมีความเจริญขึ้นมา  ทางราชการได้ทำถนนผ่านเส้นทางดังกล่าว  ซึ่งมีต้นโพธิ์เก่าแก่ขวางอยู่  เมื่อช่างที่มาทำถนนได้ตัดโค่นต้นโพธิ์ดังกล่าวต่างต้องมีอันเป็นไปหลายคน  และมีบางรายได้เสียชีวิต  ทำให้ไม่มีใครกล้าตัดต้นโพธิ์ดังกล่าว  เนื่องจากกลัวความอาถรรพณ์ลี้ลับที่เกิดขึ้น  จำต้องสร้างทางเลี่ยงผ่านต้นโพธิ์ไป  ปล่อยให้ต้นโพธิ์อาถรรพณ์อยู่ที่บริเวณดังกล่าว  โดยทางราชการได้ตัดถนนผ่านด้านข้างต้นโพธิ์อาถรรพณ์ทั้ง 2 ฝั่ง  จึงทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นคล้ายเกาะอยู่กลางถนนเป็นวัดกลางถนน พุทธสถานวัดแจ้ง มาถึงปัจจุบันนี้