วันที่ 10 พ.ค.66 ศูนย์วิทยุกู้ภัยมุสลิมเบตง ได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยไปจับงูตัวใหญ่ที่บริเวณ ถ.กุนุงจนอง ซอย5 เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับชาวบ้านและเด็กๆที่วิ่งเล่นอยู่ในหมู่บ้าน จึงได้ให้อาสาสมัคร นำอุปกรณ์การจับงู เข้าช่วยเหลือพร้อมทีมงานเบตงเพื่อสังคม และอาสาสมัครกู้ภัยเบตง

อาสาสมัครเดินทางไปถึงพบว่าซอยดังกล่าว อยู่ในหมู่บ้านกุนุงจนอง มีบ้านพักอาศัยของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก บริเวณท้ายซอยซึ่งเป็นป่าหญ้า มีชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ประมาณ 20 กว่าคน ยืนมุงดูงูที่เลื้อยหนีเข้าไปหลบใต้แผ่นปูนซึ่งติดกับคูน้ำ เนื่องจากเป็นเวลาค่ำมืด อาสาสมัครจึงต้องใช้ไฟฉายในการส่องสว่าง และพบว่างูตัวดังกล่าวเป็นงูจงอาง ซึ่งได้เลื้อยเข้าไปหลบในโพรงดินลึกเข้าไปอีก จึงทำให้ยากต่อการจับ อาสาสมัครกู้ภัยและชาวบ้านจึงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่จะทำให้งูออกมาจากโพรง ทั้งใช้ไม้ไผ่ยาวแหย่เข้าไปในโพรง นำจอบมาขุดดินบริเวณรอบๆแผ่นปูน เพื่อให้งูเลื้อยออกมา แต่งูก็ไม่ยอมออกมาง่ายๆ ซึ่งขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยและชาวบ้านพยายามช่วยกันจับงูจงอางอยู่นั้น ทุกคนก็ตกใจเมื่อมีลูกงู่เห่า โผล่มาจากคูน้ำที่อยู่ใกล้กัน จึงทำให้ต้องหันมาจับลูกงูเห่าใส่ในขวดน้ำ ก่อนที่จะพยายามจับงูจงอางต่อ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง งูจงอางก็ได้เลื้อยออกมาจากโพรงแล้วพยายามเลื้อยหนีเข้าไปในป่าหญ้า แต่ก็ไม่รอด ถูกอาสาสมัครกู้ภัยจับไว้ได้ ซึ่งชาวบ้านที่มามุงดู ต่างก็ส่งเสียงตกอกตกใจกันเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นขนาดของงู ซึ่งวัดขนาดความยาวได้ประมาณ 4.20 เมตร น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม อาสาสมัตรกู้ภัยจึงนำใส่กระสอบเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติ ซึ่งชาวบ้านก็ได้ขอให้กู้ภัยนำไปปล่อยให้ไกลๆเพราะเกรงว่างูจะกลับเข้ามาในหมู่บ้านอีก

น.ส.พัชรรินทร์ อินต๊ะอัฑฒ์ ประธานชมรมเบตงเพื่อสังคม ซึ่งเป็นผู้ที่มาจับงูร่วมกับอาสาสมัครกู้ภัย บอกว่า งูตัวนี้มีบาดแผลตามลำตัวหลายแห่ง และคาดว่า กำลังจะลอกคราบ จึงได้เลื้อยออกมาหาสถานที่ตามซอกปูน โพรงต่างๆ เพื่อลอกคราบ แต่ระหว่างเลื้อยออกจากป่าหญ้าจะเข้าไปในโพรงใต้แผ่นปูน ได้มีชาวบ้านพบเห็นเสียก่อน จึงได้แจ้งให้กู้ภัยยมาจับ เพราะเกรงจะเป็นอันตราย อาจไปกัดเด็ก และคนในหมู่บ้านบริเวณนี้ได้