รองผู้ว่าฯประจวบ มอบโล่เชิดชูเกียรติคุณยายวัย 81 ปี แม่เลี้ยงเดี่ยวหาบขนมโบราณเดินขาย
13 พ.ค. 2566, 05:09
วันที่ 12 พฤษภาคม 66 ที่ห้องประชุมสิงขร โรงแรมประจวบแกรนด์ ถนนสละชีพ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพิธีเปิดโครงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อครอบครัว การออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อความสุขของครอบครัว และกิจกรรมวันแห่งครอบครัว ประจำปี พ.ศ.2566 พร้อมกับ มอบโล่รางวัล ครอบครัวร่มเย็น ให้กับ นางผวน เหมาะเจาะ วัย 81 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 บ้านห้วยแห้ง ตำบลเขาล้าน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับคุณยาย หลังจากที่คุณยายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมากว่า 50 ปี เนื่องจากสามีคุณยายได้เสียชีวิตลง และปัจจุบันลูกชายคนโตของคุณยายสามารถสอบติดเป็นผู้คุมเรือนจำ
ซึ่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดขึ้น เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ และเป็นแบบอย่างโอกาสนี้ยังได้มอบโล่รางวัลบุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัวระดับจังหวัดให้กับ นายชัชวาล เกิดมาก หัวหน้าสำนักงานปลัดเลขานุการศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ตำบลเขาล้าน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อีกด้วย
สำหรับคุณยายผวน เหมาะเจาะ อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 บ้านห้วยแห้ง หมู่ 1 ตำบลเขาล้าน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามีได้เสียชีวิตลงในขณะที่คุณยายมีอายุได้เพียง 28 ปี หลังจากนั้นจึงต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอด 53 ปี ด้วยการประกอบอาชีพทำขนมโบราณหาบเร่ขายตามบ้านเรือนในหมู่บ้าน ชุมชน และในตลาดทับสะแกมาตลอด 49 ปี จนสามารถส่งลูกชายทั้งสองคนเรียนหนังสือจนจบ และในปัจจุบันลูกชายคนโตของคุณยายสอบติดเป็นผู้คุมเรือนจำในจังหวัดกาญจนบุรี
คุณยายผวน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้าที่สามีของคุณยายจะเสียชีวิต คุณยายได้เป็นแม่บ้านอยู่กับบ้านเลี้ยงลูก 2 คน โดยที่สามีเป็นเสาหลักของครอบครัวทำงานเลี้ยงดูลูกเมีย ต่อมาสามีได้เสียชีวิตตอนในขณะที่คุณยายมีอายุเพียง 28 ปี ลูกชายคนโตอายุ 4 ขวบ ลูกคนเล็ก 11 เดือน หลังจากที่สามีเสียชีวิตเหมือนเสาหลักของครอบครัวหักโค่น คุณยายจึงมีความคิดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเลี้ยงดูลูกต่อไปได้และอยู่รอด จึงได้ใช้ความรู้ความสามารถในการทำขนมโบราณที่มีติดตัวแล้วหาบเร่เดินขายไปตามหมู่บ้านชุมชนและตลาดทับสะแก เพื่อเป็นรายได้เลี้ยงดูครอบครัวและส่งลูก 2 คนเรียนหนังสือจนจบ ม.3 และ ม.6 เช่น ข้าวต้มมัด ขนมใส่ไส้ ข้าวเหนียวเหลือง ขนมชั้น และสังขยา เป็นต้น โดยจะหาบตะกร้าขนมออกเดินเท้าตั้งแต่ฟ้าเริ่มสางจนถึงเที่ยงวันจึงเดินทางกลับเข้าบ้านรวมระยะทางหลายสิบกิโลเมตร ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ต้องอดทน ซึ่งในปัจจุบันคุณยาย ได้เลิกหาบขนมเดินขายมาได้ 4 ปีแล้ว เนื่องจากชราภาพ จึงหันมาทำมะพร้าวขาวส่งขาย เนื่องจากมีสวนของตนเอง และในปัจจุบันลูกชายคนโตสามารถสอบติดเป็นผู้คุมเรือนจำปฏิบัติงานอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี วันนี้ที่ได้รับรางวัลยายดีใจมาก และไม่เคยคิดว่าในชีวิตจะได้รับรางวัลเชิดชูเกียรตินี้