ครม.ทราบผลคัดเลือก กทม.-ชลบุรี-สงขลา จังหวัดเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33
16 พ.ค. 2566, 15:47
วันนี้ ( 16 พ.ค.66 ) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 16 พ.ค. 66 ได้รับทราบจังหวัดเจ้าภาพสำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทั้ง 2 รายการนี้ เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 65 ที่ได้เห็นชอบรับการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย ซึ่งภายหลังได้รับการอนุมัติจาก ครม. แล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่13 ได้ดำเนินการคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพตามขั้นตอน และได้สรุปผลการคัดเลือก เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยเห็นชอบ ก่อนเสนอให้ ครม.รับทราบในครั้งนี้ ได้แก่ ให้ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 68 และนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค. 69
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพฯ ได้มีหนังสือเชิญทุกจังหวัดทั่วประเทศเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 11-28 ต.ค. 65 โดยมีจังหวัดที่สนใจเสนอตัวทั้งแบบจังหวัดเดียว และแบบกลุ่มจังหวัด รวม 14 จังหวัด ประกอบด้วย 1)เสนอตัวแบบจังหวัดเดียว ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา และกาญจนบุรี 2)เสนอตัวแบบจังหวัดเดียว (จัดบางชนิดกีฬาตามความพร้อมของจังหวัด) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา 3)เสนอตัวแบบกลุ่มจังหวัด (จัดบางชนิดกีฬาตามความพร้อมของจังหวัด) ได้แก่ กลุ่มจังหวัดอุบลราชธานี-อำนาจเจริญ-ศรีสะเกษและยโสธร, กลุ่มจังหวัด ตรัง-กระบี่-ภูเก็ต และพังงา
ภายหลังจากให้จังหวัดที่เสนอตัวนำเสนอข้อมูลและความพร้อมด้านต่างๆ แล้ว คณะอนุกรรมการพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพฯ ได้พิจารณาข้อมูลแต่ละจังหวัดภายใต้แนวคิดการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ธุรกิจเอกชน และชุมชน มีความพร้อมในการบริหารจัดการ มีแผนพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่อง เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการท่องเที่ยว โดยมีปัจจัยหลักอยู่ที่ สนามแข่งขันและฝึกซ้อม และปัจจัยสนับสนุน เช่น ที่พักและอาหาร สถานพยาบาล การคมนาคม ด้านการตลาดและสิทธิประโยชน์ ด้านบุคลากร อาสาสมัคร สาธารณูปโภค เทคโนโลยีสารสนเทศ งบประมาณ การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นต้น