เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปิดดีล! "แกนนำ 8 พรรค" ดัน "พิธา" นั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 เตรียมทำ MOU รัฐบาลใหม่ 22 พ.ค.นี้


18 พ.ค. 2566, 11:46



ปิดดีล! "แกนนำ 8 พรรค" ดัน "พิธา" นั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 เตรียมทำ MOU รัฐบาลใหม่ 22 พ.ค.นี้




วันที่ 18 พฤษภาคม เวลา 10.25 น. ที่โรงแรมโอกุระ เพรสที กรุงเทพ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่  ร่วมแถลงข่าว MOU จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการมีจำนวน ส.ส. รวม 313 คน เราทุกพรรคขอขอบคุณทุกเสียงที่ประชาชนมอบให้

นายพิธา ระบุว่า  ขอขอบคุณทุกเสียงที่ประชาชนมอบให้ ซึ่งเป็นเสียงแห่งความหวัง เสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ จะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน โดยจากการหารือกันเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีมติร่วมกัน 3 ข้อ คือ
1. ทุกพรรคเห็นชอบในการสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นพรรคที่ได้รับเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
2. หลังจากนี้ทั้ง 8 พรรค จะทำ MOU ข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแสดงแนวร่วมในการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรค โดยจะแถลงรายละเอียดของ MOU ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อแก้ไขวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ของประเทศ
3. หลังจากนี้ จะตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมอย่างไร้รอยต่อ



นายพิธา ยืนยันว่า จำนวนเสียงรัฐบาล 313 เสียง เพียงพอแน่นอนและมั่นใจว่าจะผ่านการโหวตในสภา จึงไม่ห่วงอะไร อีกทั้งมีคณะทำงานเจรจาและคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่วิเคราะห์สถานการณ์ไว้หลายรูปแบบ ว่าในอนาคตจะมีฉากทัศน์อย่างไร และจะบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างไร ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่ากังวลใจหรือน่าเป็นห่วง ส่วนหลังจากนี้จะมีพรรคอื่นมาร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น จะเป็นหน้าที่ของคณะทำงานที่จะพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องความเหมาะสม จุดยืน อุดมการณ์ การทำงานร่วมกัน และเสถียรภาพของรัฐบาล  ซึ่งเบื้องต้นคิดว่า 313 เสียง เป็นความปกติของระบบประชาธิปไตยที่เพียงพอ

ส่วนประเด็นการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112  นายพิธา ระบุว่า ก่อนเลือกตั้ง หลายพรรคก็มีการพูดคุยและแสดงจุดยืนถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว  การแถลงข่าวในวันนี้จึงไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ ขณะที่การต่อรองเจรจาเกี่ยวกับการคุมกระทรวงของแต่ละพรรค  นายพิธา ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันบ้างแล้ว แต่ทุกพรรคจะนำปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง และจะหารือกันว่าแต่ละกระทรวงจะทำงานอย่างไร โครงสร้างเป็นอย่างไร  เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนได้   

ส่วนประเด็นที่นายพิธา ถูกยื่นร้องเรียนในหลายเรื่อง ยืนยันว่าไม่กังวลและไม่ประมาท ซึ่งเข้าใจมิติของการเมืองและพร้อมจะรับทุกมิติ รวมทั้งยอมรับการตรวจสอบ    

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า  พรรคเพื่อไทย มี 141 เสียง  ซึ่งยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30  และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งความหวัง   ส่วนข้อเสนอในการร่วมรัฐบาลนั้น  เพื่อไทยไม่ได้เป็นผู้เสนอเงื่อนไข  แต่ยกให้พรรคที่เป็นแกนนำเป็นผู้เสนอและดำเนินการ  ซึ่งผ่านการจัดทำร่างของ MOU ที่ทุกพรรคร่วมกันพิจารณา  อะไรที่รับได้ อะไรที่สมควรปรับแก้ก็จะหารือกัน  พร้อมยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย จะร่วมผลักดันให้มีคะแนนร่วมในรัฐสภาให้ได้ 376 เสียงให้ได้


ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย  สนับสนุนทุกฝ่ายที่เดินตามครรลองประชาธิปไตย ยึดหลักการประชาธิปไตย เมื่อพรรคก้าวไกลได้เสียงอันดับ 1 ไทยสร้างไทยก็จะยกมือให้พิธา  ส่วนข้อตกลงต่างๆ จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน ในการจัดทำนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่  ยืนยันว่า การทำนโยบายตามที่ได้สัญญากับประชาชน สำคัญกว่าการแบ่งตำแหน่ง แบ่งกระทรวง

ทั้งนี้ ในวันแถลง MOU ของพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ตรงกับวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบปีที่ 9 ของรัฐประหาร คสช.






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.