วันนี้ (18 พ.ค. 66) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บูรณาการร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี โดยที่ทำการปกครองจังหวัดอุบลราชธานี ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองอุบลราชธานี ที่ทำการปกครองอำเภอวารินชำราบ นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุบลราชธานีที่ 1 ร่วมลงพื้นที่เข้าตรวจค้น และจับกุมร้านค้าลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี และ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาที่กระทรวงมหาดไทย โดยพบร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3 ร้าน คือ 1) ร้าน Zonic Vape Ubon สาขาบิ๊กซี 2) ร้าน Zonic Vape Ubon สาขาสรรพสิทธิ์  3) ร้าน Zonic Vape Warin สาขาวารินชำราบ ซึ่งเบื้องต้นสามารถยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง 1,746 ชิ้น คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า 550 ชิ้น เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 214 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 2,899 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางคิดเป็นค่าปรับตามกฎหมายศุลกากรไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท

"การปฏิบัติการในครั้งนี้ เริ่มต้นมาจากพลเมืองดีในจังหวัดอุบลราชธานีได้มีหนังสือร้องเรียนมายังกระทรวงมหาดไทย ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจจับร้านค้าลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนหลายแห่งในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งหลายร้านนั้นตั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษา อีกทั้งยังลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เด็กนักเรียนและเยาวชน โดยทางศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง จึงได้ส่งสายลับเข้าไปตรวจสอบร้านค้าจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าว และพบว่าทั้ง 3 ร้านมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามจำหน่าย อีกทั้งยังจำหน่ายให้เด็กและเยาวชน เพราะจากการสังเกตการณ์นั้นลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น วัยเรียน ปรากฏจากลักษณะการแต่งกาย เป็นชุดนักเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และชุดนักเรียนอาชีวศึกษา ลักษณะและรูปแบบการขายในแต่ละร้านจะมีตู้ชั้นสินค้าจัดวางสินค้าเป็นจำนวนมาก ลูกค้าจะยืนเลือกสินค้าจากด้านหน้าตู้กระจกใส และแจ้งกับพนักงานว่าจะซื้อสินค้า โดยทางร้านรับชำระเงินทั้งแบบเงินสด และแบบโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร" นายแมนรัตน์ กล่าว

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังการเข้าตรวจค้นโดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สามารถจับกุมเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และพนักงานจาก 3 ร้าน จำนวน 7 คน พร้อมตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ และได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่ายังมีร้านสาขาของ Zonic Vape Ubon อีกหนึ่งสาขาที่วันนี้ไม่เปิดทำการ แต่ฝ่ายปกครองมีข้อมูลเพียงพอที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี เพื่อให้ดำเนินคดีพร้อมกันด้วย 

"ทั้งนี้ ร้านที่ถูกจับได้ในครั้งนี้มีลักษณะการตั้งร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมทั้งน้ำยาอย่างโจ่งแจ้งอยู่กลางเมือง หลายสาขา โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อีกทั้งยังมีการโฆษณาเผยแพร่เป็นสาธารณะ และมีการจำหน่ายให้เด็กและเยาวชน นับว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย อันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของ” และ “ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าห้ามขายสินค้า” มีความผิดตาม มาตรา 56 ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายแมนรัตน์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวในช่วงท้ายว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจากปัญหาการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาขายภายในประเทศ ซึ่งในกรณีนี้ กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครองได้รับข้อมูลจากประชาชนถือได้ว่าเป็นแบบอย่างของพลเมืองดีที่ไม่ได้นิ่งนอนใจในการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนของชาติ และเมื่อทราบเรื่องแล้วฝ่ายปกครองก็ได้ปฏิบัติการอย่างทันทีเพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในพื้นให้หมดไป "เพราะทุกข์ของชาวบ้าน คือทุกข์ของฝ่ายปกครอง" และเราจะยังคงมุ่งมั่นในการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน และขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนและทุกคนในสังคมไทย หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด เช่น ลักลอบจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย หรือการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ damrongdhama.dopa.go.th หรือแอปพลิเคชั่น Dopa Help ทั้งระบบ Android และ iOS