“จนท.ชุดพญาเสือ” บุกจับไม้โรงงาน จ.นครพนม พบลักลอบตัดข้ามจังหวัดจาก อช.ภูผายล จ.สกลนคร
22 พ.ค. 2566, 12:22
วานนี้ 21 พ.ค. 66 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.10 น. เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) นำโดย นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าชุดพญาเสือ ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดนครพนม เข้าตรวจค้นโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม เนื่องจากมีหลักฐานว่ามีการนำไม้ที่ลักลอบตัดจากอุทยานแห่งชาติภูผายล จ.สกลนคร นำมาเก็บไว้ที่โรงงานแห่งนี้
จากการเข้าตรวจค้นโรงงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบไม้ประดู่ป่าที่ถูกลักลอบนำมาจากอุทยานแห่งชาติภูผายล ในบริเวณโรงงานดังกล่าว ซึ่งเอกสารรับรองที่นำมาแสดงปรากฎว่าภาพถ่ายไม่สอดคล้องกับแปลงโฉนด ซึ่งเป็นการรับรองเป็นเท็จ จึงทำการตรวจยึดไม้ของกลางดังกล่าวจำนวน 21 เหลี่ยม ปริมาตร 2.62 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 91,599.20 บาท
คณะเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายเจษฎา คนที่นำไม้มาขาย นางบุญเฮือง คนที่นำไม้มาขาย และบริษัท โรงงานที่ไม้ของกลางไปปรากฎอยู่ ในฐานร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ฐานมาตรา 19 (2) ประกอบมาตรา 56 ฐาน ฐาน “ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ตามมาตรา 11 “ทำไม้ นำไม้ออกจากป่า กระทำด้วยประการใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” มาตรา 39 “ผู้ใดนำไม้เคลื่อนที่ต้องมีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วยตามข้อกำหนดในกฎกระทรวง” มาตรา 48 “ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และมาตรา 64 ทวิ มาตรา 70 “ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใดซ่อนเร้น หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยกระทำผิด มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น”
และความผิดพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507,พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 “ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”และการใช้เอกสารที่เป็นเท็จ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง พร้อมนำเรื่องราวส่งดำเนินคดี สภ.เมืองนครพนม จ.นครพนม โดยนำของกลางไปเก็บไว้ที่อุทยานแห่งชาติภูผายล เพื่อดูแลรักษา สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของดำเนินกิจการโรงงาน ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม กรมป่าไม้ จะตรวจสอบความถูกต้องของดำเนินกิจการเพื่อจะทำการอายัดต่อไป
นายมงคล ไชยภักดี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล จ.สกลนคร ได้ออกลาดตระเวนสืบหาข่าว การลักลอบตัดไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ในท้องที่ ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร ระหว่างอุทยานแห่งชาติภูผายล และป่าสงวนแห่งชาติป่าภูล้อมข้าวและป่าภูแพ็กได้ตรวจพบร่องรอยการชักลากไม้ออกมาจากป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูผายล จึงได้ติดตามไปตรวจพบมีการแปรรูปไม้ และพบไม้แปรรูปถูกวางกระจัดกระจายในบริเวณป่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ประดู่แปรรูปจำนวน 3 เหลี่ยม ซึ่งลักษณะไม้ไม่ใช่ไม้เพื่อก่อสร้างบ้านเรือน คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วคาดว่าเป็นไม้ที่นายทุนสั่งซื้อ เพื่อลักลอบส่งออกต่างประเทศ จึงได้ติดตามขบวนการการลักลอบค้าดังกล่าว โดยรถที่ขนส่งไม้มีการขับปรับเปลี่ยนไปหลายเส้นทาง กระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 เวลา 06.07 น. รถขนไม้ได้หยุดอยู่ที่โรงงาน ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม จึงได้มีการขอหมายศาลจังหวัดนครพนมเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว