นายกฯ สั่งการ มท.-ผู้ว่าฯ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุพัดถล่ม รร.วัดเนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร
23 พ.ค. 2566, 12:13
วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานสรุปสถานการณ์วาตภัยที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (22 พ.ค. 66) โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตรวม 7 ราย และผู้บาดเจ็บ 23 ราย ที่ จ.พิจิตร พร้อมสั่งการกระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วาตภัย เร่งค้นหาผู้ที่สูญหาย สำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด
นายอนุชากล่าวว่า ปภ.พิจิตร ได้รายงานเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 พ.ค. 66) เกิดเหตุพายุฝนพัดถล่มโดมขนาดใหญ่หลังคาเมทัลชีท ตั้งอยู่ภายโรงเรียนวัดเนินปอ หมู่ที่ 1 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร โดยขณะเกิดเหตุมีนักเรียนที่มาเล่นกีฬาฟุตบอล หลบฝนอยู่ภายในโดมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ปภ.พิจิตร อบจ.พิจิตร หน่วยกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องมือ อาทิ ชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมไฟฟ้าส่องสว่าง อุปกรณ์ตัดถ่าง และอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัยเข้าให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้สรุปสถานการณ์วาตภัย ณ เวลา 22.30 น. วันที่ 22 พ.ค. 66 มีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร แพร่ ตาก ลำปาง กำแพงเพชร รวม 9 อำเภอ 11 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 207 หลัง โดย ปภ. ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
“นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์วาตภัยที่เกิดขึ้น ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค. 66) มีรายงานผู้เสียชีวิตรวม 7 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 23 ราย โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมสั่งการกระทรวงมหาดไทย ปภ. ผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งค้นหาผู้ที่ยังสูญหาย สำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบของทางราชการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า หากมีแนวโน้มการเกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ขอให้เตรียมการช่วยเหลือตามแผนเผชิญเหตุ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนทราบถึงสถานการณ์ แนวปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัย ตลอดจนช่องทางการแจ้งข้อมูล และขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐในทุกช่องทางสื่อสาร โดยให้ประชาชนแจ้งสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือโดยทันที” นายอนุชา กล่าว