ส่วนนางสุวรรณ มีธรรม อายุ 66 ปี ชาวบ้านระหาร ตำบลแกใหญ่ แม่ค้าขายข้าวแกงภายในตลาดสด ถูกขโมยถังแก๊สไป 2 ถัง ได้เล่าว่า ตนเองเดินทางมาตลาดช่วงตี 4 ของทุกวัน ทำการค้าขายมาเกือบ 40 ปีแล้ว โดยในคืนที่เกิดเหตุ ตนเองเดินทางมาถึงร้านพบว่ามีสภาพถูกรื้อที่บริเวณถังแก๊ส ส่วนข้าวของอย่างอื่นยังอยู่ในสภาพปกติ ทำเอาเข่าแทบทรุด เพราะในแต่ละวันตนขายได้กำไรแค่ 200-300 บาท เพราะช่วงนี้ขายน้อยคนเงียบมาก โดยเปิดขายตั้งแต่ 04.00 ถึง 11.00 น. ก็เก็บของกลับบ้าน ซึ่งกำไรมีแค่นี้ตนก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อถังแก๊สมาใช้ ดีที่มีลูกสาวตนซื้อให้ใหม่ 2 ถัง ในราคาถังละเกือบ 3 พันบาท โดยคืนเกิดเหตุนั้นตนประมาทเองที่ไม่ได้ล็อกถังแก๊ส เพราะคิดว่าปิดมิดชิดแล้ว แต่ปกติก็จะล็อกไว้ตลอด นางสุวรรณ ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดี เพราะไม่รู้จะแจ้งว่ายังไง เคยมีคนไปแจ้งแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครกระตือรือร้นหาให้คืนได้เลย

ทางด้านนางสาวเอ็ง แซ่ตั้ง อายุ 75 ปี บ้านอยู่ซอยหน้าตลาดสด เป็นแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ได้เข็นรถเข็นเดินขายกับข้าวบริเวณตลาดสดและพื้นที่ใกล้เคียง ได้บอกว่า ตนเองอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว กับลูกแมวอีก 2 ตัว ซึ่งด้วยเศรษฐกิจปัจจุบันตนเองขายของยากมาก วันหนึ่งขายได้ไม่ถึง 1,000 บาท หักต้นทุน หักใช้หนี้ไปก็แทบไม่เหลือเลย ซึ่งเมื่อช่วงเช้าตนเองถึงกับตกใจและ งง มาก เห็นสายท่อแก๊สกองอยู่ที่พื้น จึงเดินไปบอกเพื่อนๆที่ขายอยู่ในตลาด กลับได้รับข่าวมาเพิ่มว่า หน้าตลาดก็โดน โดยตนเองต้องระวังให้มากขึ้นแล้ว คงต้องเพิ่มโซ่ล็อกให้เยอะขึ้น จะยกถังแก๊สเข้าในบ้านก็ไม่ไหว อายุก็ปาไป 70 กว่าแล้ว อีกอย่างชาวตลาดส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปแจ้งความไว้เพราะคิดว่าคดีเล็กๆคงไม่คืบหน้าอะไร ส่าสุด มีผู้ใหญ่ใจดี ออกเงินซื้อถังแก๊สให้ตน 1 ถัง แล้วให้ตนผ่อนจ่ายวันละ 100 บาท เพื่อให้สามารถทำมาหากินได้ไปก่อน อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องสู้กันต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ ยังมีอีกหลายราย ที่ไม่ได้เดินทางเข้าไปแจ้งความเอาผิดกับหัวขโมยดังกล่าว และบางส่วนก็เดินทางเข้าไปแจ้งความไว้แล้ว หวังว่าจะสามารถรวบตัวหัวขโมยดังกล่าวได้ในเร็ววัน จึงจะสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้เป็นอย่างดี