"บิ๊กโจ๊ก" เร่งรัดติดตามคดีทารุณเด็กภายในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี สัปดาห์หน้ารู้ผล เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ช่วยกระทำผิด
1 มิ.ย. 2566, 07:58
วันที่ 31 พ.ค. 66 เมื่อเวลา 15.45 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางมายัง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เพื่อร่วมประชุมเร่งรัดติดตามความคืบหน้า ในกรณีเด็กหญิงถูกทารุณและทำร้ายร่างกาย ในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี โดยมี นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี นางสาวน้ำค้าง คันธรักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังรายงานผลการสอบสวน โดยเบื้องต้นไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง โดยบิ๊กโจ๊กเชิญผู้สื่อข่าวออกจากห้องประชุมก่อน พร้อมบอกขอผมทำงานแป๊บนึงครับ เสร็จแล้วผมจะให้สัมภาษณ์ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงทยอยออกจากห้องประชุม หลังการประชุมเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้ซักถามถึงความคืบหน้าทางคดี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า สำหรับในวันนี้ท่านผบ.ตร. ได้มอบหมายสั่งการให้ตนเองลงมากำกับคดี ในฐานะตนเองเป็นผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์ เด็ก สตรี เยาวชน และครอบครัว รวมถึงภาคประมง จากการติดตามความคืบหน้าคดี วันนี้ต้องชมเชยในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ในส่วนของพนักงานสอบสวน วันนี้คดีมีความก้าวหน้าไปเยอะ เพราะฉะนั้นในส่วนความผิดที่เราพบแล้ว หลักๆการเกิดเหตุก็มีพฤติกรรมในการทำร้ายเด็ก มีทั้ง ถีบ เตะ ให้ผูกขา และเอาไปกักขังในห้องน้ำ ถีบอัดตู้ เตะอัดตู้ต่างๆ ถีบตกจากเก้าอี้ รวมถึงเรื่องการเอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วมาแช่น้ำแล้วให้เด็กดื่มกิน ซึ่งเหล่านี้ก็ต้องเรียนว่า หลักสิทธิมนุษย์ชน ทุกคนรวมถึงเด็ก ย่อมมีสิทธิในเนื้อตัวของตัวเอง ไม่ใช่ใครจะมาแตะต้องหรือทำร้ายได้ เพราะฉะนั้นต้องแยกกันให้ออก ระหว่างเรื่องการอบรมสั่งสอนและเรื่องการทำร้ายร่างกาย เพราะฉะนั้นซึ่งความผิดเหล่านี้ที่จะมีการดำเนินคดีที่เห็นชัดเจนแล้ว ในส่วนของพี่เลี้ยงเด็กผู้ที่ดูแลเด็ก และในส่วนของลูกมือ เด็กโตที่ร่วมกัน เหล่านี้ก็จะมีความผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกาย แต่อีกส่วนหนึ่งวันนี้เท่าที่ประชุมหารือกัน ตนก็วางกรอบแนวทางว่าในเรื่องการทำลายศักศรีความเป็นมนุษย์ การกระทำที่ทารุณโหดร้าย ย่ำยีศักศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเหล่านี้ก็จะไปเข้าในส่วนของพรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหายอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งในส่วนนี้เรายังสอบพยานไม่หมด เพราะว่ายังเหลือพยานอีกหลายปาก เพราะฉะนั้นในส่วนของความผิดที่เราวางแนวทาง ก็คือ 1.ในเรื่องของหลักร่วมทำร้ายร่างกายเด็ก ร่วมกันกระทำการล่วงล้ำระเมิดศักศรีความเป็นมนุษย์ของเด็กเหล่านี้ อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิด เพราะฉะนั้นต้องไปไล่ดูต่อ ว่าในส่วนของผู้ปกครอง ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงได้มีคำสั่งให้ไปช่วยการแล้ว มีการระเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ถ้าหากว่ามีการรายงานแล้ว มีการดำเนินการแล้ว ชั้นเหนือขึ้นไป มีการทำอะไรหรือไม่ มีการระเว้นหรือไม่ ถ้าไม่มีการดำเนินการอะไร ในฐานนะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ เหล่านี้ก็จะมีความผิดในเรื่องของการเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือระเว้นการปฏิบัติหน้าที่มีความผิดฐาน 157 อีกเช่นเดียวกัน
ส่วนผู้มีส่วนร่วมหลักๆก็เป็นพี่เลี้ยง 2 คน และร่วมกับเด็กที่เป็นเด็กผู้ใหญ่ ซึ่งในวันนี้เดี๋ยวจะดูรายละเอียดทั้งหมดว่ามีกี่คน แต่วันนี้ในเรื่องความผิดฐานทำร้ายร่างกาย พยานหลักฐานเราเพียงพอแล้ว แต่เรายังไม่แจ้งข้อหา เดี๋ยวจะไล่ทั้งหมดก่อน แล้วจะอนุมัติหมายจับพร้อมกัน คิดว่าในสัปดาห์หน้าจะเห็นความชัดเจน ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีอะไรที่นักใจในคดีนี้
ในส่วนของเรื่องการเยียวยาจิตใจเด็กยังไงเป็นส่วนที่เราต้องทำอยู่แล้ว ร่วมกับกระทรงพัฒนาสังคมและความมั่นคงร่วมกับกระทรงยุติธรรม ก็คือกรมคุ้มครองสิทธิ์ ในส่วนของเด็ก ขณะนี้เด็กอยู่ในบ้านพักเด็กของจังหวัดสระบุรี เมื่อสักครู่ตนเองได้คุยกับหัวหน้าบ้านพักเด็กแล้ว ว่า เดี๋ยวเราจะย้ายเด็กไปไว้ที่คุ้มครองสิทธิ์ของจังหวัดสระบุรีแทน เพราะว่าเราจะให้เด็กอยู่ในบ้านพักเด็ก ในความรับผิดชอบของขบวนการพัฒนาสังคมและความมั่นคงฯไม่ได้ เพราว่าการทำร้ายเด็กมันเกิดขึ้นในสถานสงเคราะห์ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะฉะนั้นเพื่อจะให้เด็กเขามีความอุ่นใจ ไว้เนื้อเชื่อใจ สบายใจ เราต้องย้ายเด็กออกมาจากการดูแลของบ้านพักเด็กของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เมื่อสักครู่ตนได้โทรเรียนปลัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว เพื่อจะย้ายเด็กทั้ง 9 คน ในวันนี้มาไว้ที่คุ้มครองสิทธิ์จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่ง แน่นอนว่าการเยียวยาเมื่อเราเสร็จสิ้นคดี เราต้องดพเนินการทั้งหมด ซึ่งมันจะมีระเบียบขั้นตอนอยู่ ทั้งเงินค่าสินไหม ทั้งเงินเยียวยา ส่วนนี้ต้องมีระเบียบอยู่ ทั้งในส่วนของกระทรวงพัฒนาสังคม และในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมันจะมีเรทในการจ่ายอยู่ แต่สิ่งสำคัญคือการฟื้นฟูจิตใจเด็กเหล่านี้
ในส่วนของส่วยสติกเกอร์ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ ตนเองไม่ได้มีความรับผิดชอบในส่วนนี้ แต่ทางท่าน ผบ.ตร. ได้มีการแต่งตั้งจเรตำรวจ ให้เข้ามาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แล้วได้มีคำสั่งให้ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงมาช่วยการแล้ว ซึ่งอันนี้ก็เป็นการดำเนินการของท่าบผบ.ตร.ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ตนเองก็มองว่า ท่านผบ.ตร.ก็ตั้งใจที่จะทำให้สถานการณ์โปร่งใส และแน่นอนส่วยสติกเกอร์ต่างๆ ถ้ามีจริง วันนี้เมื่อมันมีการให้ข้อมูลของท่านวิโรจน์ ก็ต้องยอมรับว่ามีจริง เกิดขึ้นจริง ส่วนนี้ก็ต้องเป็นการดำเนินการในเรื่องของอาญาและวินัย ซึ่งท่านผบ.ตร.กำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ส่วนจะเป็นการลงโทษชั้นไหน ก็ต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งท่านผบ.ตร.ดำเนินการอยู่ ในส่วนนี้ตนเองไม่ได้เข้าไปดูแล