นายกฯ หนุนกิจกรรม “Thailand’s Hidden Dishes: อาหารจานลับ” นำเสนอการท่องเที่ยวควบคู่กับวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น 5 ภูมิภาค
1 มิ.ย. 2566, 09:05
วันนี้ (1 มิถุนายน 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ผ่านโครงการ “Thailand’s Hidden Dishes : อาหารจานลับ” นำเสนอเมนูอาหารที่แสดงถึงอัตลักษณ์และวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น จากทั้ง 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย เชื่อมั่นกิจกรรมฯ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียงตามที่คาดการณ์มูลค่าถึง 100 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมครั้งนี้ (เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566) เพื่อมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ อาหารท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาค ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หรือ Hidden Dishes โดยได้สรรหา 5 เมนูอาหารจานลับ ที่หารับประทานได้ยากในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ แกงหัวโหนด ของภาคกลาง จังหวัดเพชรบุรี หมูผัดรากชู ของภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย แกงน้ำเคยยอดหวาย ของภาคใต้ จังหวัดพัทลุง อ๋อปลา ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น และ ปลาย่ำสวาท ของภาคตะวันออก จังหวัดตราด ซึ่งชนิดของอาหารที่ได้รับการคัดเลือกในกิจกรรมครั้งนี้ เป็นอาหารที่แสดงถึงอัตลักษณ์ประจำท้องถิ่น และวัฒนธรรมทางอาหารของแต่ละภูมิภาค สามารถหารับประทานได้เฉพาะในพื้นที่เท่านั้น เป็นการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหารในรูปแบบใหม่ และนักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ที่มีความหมายจากชุมชนท้องถิ่น ด้วยการเยี่ยมชมแหล่งวัตถุดิบ เรียนรู้วิธีการประกอบอาหารประจำถิ่น ไปจนถึงรับการประทานอาหารท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ได้มีการส่งเสริมส่งเสริมให้ร้านอาหารในแต่พื้นที่ได้บรรจุเมนู Hidden Dishes ลงในเมนูของร้านอีกด้วยด้วย
“นายกรัฐมนตรี สนับสนุนการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวด้านอาหาร ถือเป็นกิจกรรมที่นำอีกหนึ่ง Soft power ของไทยมาเป็นจุดเด่น ซึ่งวัฒนธรรมอาหารของไทย มีเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่แตกต่างในภูมิภาค วัตถุดิบในการปรุงอาหารของไทยหลากหลาย และหาไม่ได้ในพื้นที่อื่น เป็นวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เชื่อมั่นว่ากิจกรรมครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และกระจายรายได้สู่ชุมชน” นายอนุชาฯ กล่าว