ปลัด มท. นำคณะผู้บริหาร ร่วมพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่8 เนื่องในวันอานันทมหิดล
9 มิ.ย. 2566, 15:20
วันนี้ (9 มิ.ย. 66) เวลา 08.08 น. ที่บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายณรงค์ เมยไธสง เลขานุการกรมที่ดิน พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ กระทรวงมหาดไทย กว่า 100 คน ร่วมพิธี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 ณ เมืองไฮเดลเบอร์ก ประเทศเยอรมนี เป็นพระราชโอรสพระองค์แรกในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีสมเด็จพระเชษฐภคินี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระอนุชา 1 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยพระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2478 ซึ่งตลอดพระชนม์ชีพพระองค์ท่านได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ ทั้งงานพระราชพิธี งานรัฐพิธี งานด้านการศาสนาและการศึกษา โดยเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสด็จเยี่ยมโรงพยาบาล หน่วยทหาร สถานที่สำคัญต่าง ๆ และทรงริเริ่มประเพณีการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในชนบท โดยเริ่มในจังหวัดและอำเภอปริมณฑลโดยรอบกรุงเทพฯ
"สำหรับพระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่ง คือ การเสด็จเยี่ยมชาวจีนในย่านสำเพ็ง พระนคร พร้อมด้วยสมเด็จพระอนุชาธิราช เมื่อปี 2488 ซึ่งการเสด็จเยี่ยมชาวจีนที่สำเพ็งครั้งนั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง เพราะทำให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างชาวจีนและชาวไทยที่มีมาก่อนหน้านั้นหายไป และพสกนิกรทั้งปวงต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนี้ ในด้านการศาสนา พระองค์ได้ประกอบพิธีทรงปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการพระพุทธรูปในพระอารามที่สำคัญ พร้อมทรงตั้งพระราชหฤทัยว่าจะผนวชในพระพุทธศาสนา ทั้งยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์บำรุงวัดวาอารามกับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์แก่ศาสนาอื่นตามสมควร" ปลัด มท. กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า พระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งในด้านการศึกษา พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจการของหอสมุดแห่งชาติ รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนเทพศิรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ทรงศึกษาขณะทรงพระเยาว์ และยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรกของรัชสมัย ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเสด็จฯอีกครั้งที่หอประชุมราชแพทยาลัย ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2489 โดยในการพระราชทานปริญญาบัตรครั้งนี้ ทรงมีพระราชปรารภให้มีการผลิตแพทย์เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน จึงเป็นที่มาของการที่โรงเรียนแพทย์แห่งที่ 2 ได้ถือกำเนิดขึ้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งในปัจจุบัน คือ "คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" หลังจากนั้น ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระองค์ทรงหว่านข้าว ณ แปลงสาธิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งถือเป็นพระราชกรณียกิจสุดท้าย ก่อนเสด็จสวรรคต ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 12 ปี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระองค์ทรงสร้างสรรค์คุณประโยชน์อเนกอนันต์ต่อประเทศไทยนานัปการ อันเป็นรากฐานแห่งความเจริญวัฒนาผาสุกของราชอาณาจักรไทย และความสุขของอาณาประชาราษฎร ซึ่งข้าราชการของกระทรวงมหาดไทยทุกคนในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในการเผยแพร่พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านและบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่ทรงมีคุณูปการให้กับประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์มหาศาล ยังผลให้เกิดความเจริญงอกงาม ความเป็นเอกราช และความรุ่งเรืองของประเทศชาติมาจวบจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการสร้างองค์ความรู้ เผยแพร่ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อร่วมกันรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์
"เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้นของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐที่ทรงมีคุณูปการอันเป็นรากฐานความมั่นคงของประเทศ ส่งผลให้เกิดความอยู่ดีมีสุขของพสกนิกรชาวไทยตราบจนถึงปัจจุบัน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันตั้งจิตเป็นกุศล ประกอบคุณงามความดี เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต 9 มิถุนายน 2566 โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ" ปลัด มท. กล่าวในช่วงท้าย