วันนี้ ( 13 มิ.ย.66 ) นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงมาตรการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่สดปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ ว่า สืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาสภาพอากาศร้อน ส่งผลให้ผลผลิตไข่ไก่สดจากฟาร์มมีปริมาณลดลงและมีขนาดเล็กลง ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับราคาขึ้นอยู่ที่ 3.80 บาทต่อฟอง กระทบต่อราคาขายปลีกทยอยปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10 สตางค์ต่อฟอง

จากการตรวจสอบของกรมการค้าภายใน ปัจจุบันโครงสร้างราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นถือว่ายังอยู่ในกรอบที่กำกับดูแล แต่เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อผู้บริโภค กรมการค้าภายใน ยังคงดำเนินโครงการธงฟ้าราคาประหยัดจัดรถโมบายกว่า 100 จุดครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมีการจัดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดทุกภูมิภาค นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ยังได้หารือกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ให้ต้นทุนการผลิตสอดคล้องกับโครงสร้างราคาที่กรมการค้าภายในควบคุมดูแล พร้อมกำชับผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าขายปลีกห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าและต้องติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า

หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าเกินสมควรหรือไม่มีเหตุผลในการขึ้นราคา มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี หากผู้บริโภคพบเห็นการซื้อ-ขายสินค้าราคาผิดปกติ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในซื้อขายสินค้าสามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวถึงภาพรวมราคาอาหารสดจากการลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าเป็นประจำทุกวัน พบว่าสินค้าประเภทปศุสัตว์ราคายังทรงตัว สภาวการณ์ผลิตและความต้องการของตลาดยังมีความสมดุลกัน รวมถึงราคาไข่ไก่สดคาดว่าใช่วงนี้จะยังทรงตัว เนื่องจากสภาพอากาศร้อนเริ่มคลี่คลาย ทำให้ผลผลิตไข่ไก่สดมีขนาดใหญ่และมีปริมาณเพิ่มขึ้น