วันนี้ (14 มิถุนายน 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการดำเนินการธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) และช่วยเหลือธุรกิจ SME อย่างต่อเนื่อง และมุ่งยกระดับศักยภาพการประกอบธุรกิจให้เท่าทันสถานการณ์ ผ่านแนวทางพัฒนาสตาร์ทอัพ พร้อมเปิดพื้นที่เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย สนับสนุนองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายให้แก่ SME

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้เติบโต และเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจให้ประเทศ โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล กสอ. พิจารณาโครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยจะนำภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม ดังนี้
1) โครงการสร้างผู้ประกอบการและต้นแบบผลิตภัณฑ์ฐานนวัตกรรม มุ่งพัฒนาไอเดียสร้างสรรค์สู่การเป็นผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม เน้นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ค้นหาสุดยอดงานหัตถศิลป์แห่งอนาคต 
2) โครงการต่อยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่ภาคอุตสาหกรรม เชื่อมโยงงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อนำผลงานงานวิจัยจากสถาบันการศึกษามาพัฒนา พร้อมจับคู่ธุรกิจ 
3) โครงการดีพร้อม Angel Fund เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ให้แก่กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพหลากหลายด้าน พร้อมสนับสนุนเงินทุน เพื่อให้เกิดการจัดตั้งบริษัทใหม่ และเพิ่มการจ้างงานภายในประเทศ 
4) โครงการดีพร้อม Startup Connect พัฒนาทักษะการดำเนินธุรกิจ เปิดโอกาสสตาร์ทอัพทำงานกับพันธมิตรเอกชน ทดลองใช้นวัตกรรมในตลาดจริง 
5) โครงการสร้างเครือข่ายผู้นำพันธุ์ดีพร้อม ซึ่งเน้นกลุ่มกิจการสายสังคมและสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะยกระดับธุรกิจเพื่อสังคม สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 200 ล้านบาท
6) โครงการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในการระดมทุน สู่การเติบโตทางธุรกิจ เตรียมระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยจะร่วมกับเอกชน ฝึกอบรมความรู้ในการระดมทุน โครงสร้างระบบบัญชีการเงิน นำเสนอธุรกิจต่อนักลงทุน แหล่งเงินทุน รวมทั้งการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ 

สำหรับการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ SME กสอ. ได้เปิดตลาดในรูปแบบออฟไลน์ในงาน “อุตสาหกรรมแฟร์ : โลจิสติกส์โตไว สินค้าราคาโดนใจ ใส่ใจชุมชน” เมื่อวันที่ 29 – 31พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยนำสินค้าของผู้ประกอบการ SME มาทดสอบตลาด และศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค นับเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ และสร้างเครือข่ายเกี่ยวกับระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมช่องทางการขายสินค้าที่หลากหลาย สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน