เปิดโครงการเพาะพันธุ์ดี NT Youth Club เพื่อพัฒนาเยาวชนใช้สื่อดิจิทัล
14 มิ.ย. 2566, 19:25
วันนี้ 14 มิ.ย.นายอนันต์ จรุงโรจน์รัศมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการเพาะพันธุ์ดี NT Youth Club ชุมชนคนรักษ์บึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้แก่ นายธนาพงศ์ แสนสุภา รองนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ นายดอกดิน ตุ้มทอง ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นายชาญชัย แสนจันทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬ และนายวัชรพล สุภัควนิช โทรคมนาคมจังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างต้นแบบ ให้มีความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยมี นายกรเอก แสงแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริษัท โทรคมนาคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT พร้อมด้วยผู้ประกอบการวิสาหกิจ ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่ชุมชนฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ วิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
นายอนันต์ จรุงโรจน์รัศมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล พัฒนาการจังหวัด สถาบันการศึกษา และ NT ในจังหวัดบึงกาฬ ว่าเป็นการนำศักยภาพของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการร่วมกันเพื่อให้ชุมชนคนรักษ์บึงกาฬ ได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่สามารถนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างอาชีพ รายได้ และยังเปิดโอกาสในการร่วมกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่ของดีจังหวัดบึงกาฬให้เป็นที่รู้จักในโลก Online ผ่านความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น จ.บึงกาฬ ซึ่งการนำโครงการเพาะพันธุ์ดี NT Youth Club จะช่วยให้ชุมชนได้เรียนรู้การใช้ประโยชน์จาก IT และ Social Media อย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตนเองของประชาชนและชุมชนที่ได้เข้าร่วมโครงการ รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายชุมชนต้นแบบในการใช้ไอซีทีสร้างเศรษฐกิจที่ดีต่อไปในอนาคต
นายกรเอก แสงแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบน NT กล่าวเกี่ยวกับการดำเนินโครงการในครั้งนี้สำหรับชุมชนคนรักษ์บึงกาฬว่า NT เป็นผู้ประสานงานให้ความรู้ในการใช้งานระบบเทคโนโลยีดิจิทัล จัดให้มีระบบงานเพื่อให้ชุมชนใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน รวมถึงการอบรมให้ความรู้ทักษะด้านไอทีและการใช้งานระบบการซื้อขายออนไลน์แก่กลุ่มเยาวชน ในส่วนของเทศบาลเมืองบึงกาฬและพัฒนาการจังหวัดบึงกาฬให้การสนับสนุนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ คัดเลือกตัวแทนกลุ่มชุมชนเพื่อเข้ารับการอบรม รวมทั้งประสานงานและจัดให้มีสถานที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันทั้งก่อนและภายหลังการอบรม รวมถึงให้ชุมชนมีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มเยาวชน NT Youth Club จากวิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬ ในการทำกิจกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อประชาสัมพันธ์ชุมชนสู่โลกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของชุมชนรักษ์บึงกาฬมีหลากหลาย อาทิ ผ้าฝ้ายทอมือ ผ้ามัดหมี่สีธรรมชาติ สินค้าแฮนด์เมดจากผ้าพื้นบ้านปักมือ เช่น พวงกุญแจ กระเป๋า ผ้าพันคอ เป็นต้น ผ้าฝ้ายย้อมครามธรรมชาติแปรรูปเป็นผ้าถุง กระเป๋า กระโปรง เสื้อ กางเกง และสินค้าแปรรูปจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาทิ ข้าวเกรียบว่าว ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรี่ เป็นต้น
นายกรเอก กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการเพาะพันธุ์ดี NT Youth Club เป็นโครงการที่มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเยาวชนและชุมชนผ่านความสามารถหลักในด้านบริการโทรคมนาคมและบริการดิจิทัลของ NT เช่น ในด้าน Internet of Thing หรือ IoT ที่จะส่งเสริมการเรียนรู้การทำเกษตรสมัยใหม่ (Smart Farming) การอบรมให้ความรู้ในโครงการ Smart kids code การสอนทักษะเขียน Code การจัดอบรมการใช้ Social Media เทคนิคด้านการถ่ายภาพ การตัดต่อวิดีโอ การจัดทำ Content บนสื่อออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาความรู้ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกต้องให้แก่เยาวชนเพื่อนำไปปรับใช้ในการสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าของชุมชน และสร้างรายได้จากการขายสินค้าผ่านตลาดออนไลน์
“การดำเนินโครงการของ NT ยังมุ่งเน้นการให้ความรู้ทางด้านดิจิทัลต่างๆ โดยเฉพาะ IoT เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเรียนรู้ ปรับใช้และต่อยอดพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น อาทิ Smart Home, Smart City, Smart Pole เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการคัดเลือกชุมชน จัดทำแผน และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจากเดิมเป็นปีที่ 10 แม้ NT จะเพิ่งก่อตั้งได้ประมาณ 2 ปีภายหลังการควบรวมบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564”
ชุมชนคนรักษ์บึงกาฬจึงเป็นชุมชนที่ 79 ของโครงการ โดยภายในปี 2566 นี้ NT ตั้งเป้าที่จะขยายชุมชนใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ได้แก่ ชุมชนนครเขื่อนขันธ์ กาบแก้วบัวบาน จ.หนองบัวลำภู ชุมชนระแหง จ.ตาก ชุมชนอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ และชุมชนบ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะทำให้มีชุมชนในโครงการครบทั้ง 77 จังหวัด รวม 83 ชุมชน.