เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊คใช้ชื่อว่า Watgharaphon Waenthongkham ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “โพสต์นี้มาเล่าอาการเก๋ให้ฟังอย่างละเอียด วันแรกมีอาการผื่นคันตามตัวแค่ลำตัวนิดหน่อยคล้าย ๆผื่น จะรู้สึกคัน ๆยิบ ๆ หลังจากซ่อมฝ้า ลอกวอลล์เปเปอร์แบบอิฐสีขาว เพื่อไปจะเปลี่ยนแทนเพราะดูแลยาก ตอนลอกออกมาคือมีทั้งฝุ่น ทั้งแมลง มด จิ้งจก และอื่นๆ เลยทายาแก้คัน และกินยาแก้แพ้ แก้คัน วันที่2 อาการยังเหมือนวันแรก ก็ทายากินยาเหมือนเดิม และวันนั้นได้ไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำออฟฟิต  ซึ่งน้ำวันนั้นเริ่มจะออกเขียวๆนิดหน่อย เพราะมีใบไม้ กิ่งไม้ มันร่วงลงในน้ำ และอื่นๆ เนื่องจากคนล้างสระหยุดไปทำธุระที่บ้าน ไปหลายวันช่วงรอบที่ต้องล้างสระวันนั้นร้อนมากเลยไปเล่นน้ำตั้งแต่ 16.00-22.00 น.ฟิวปาร์ตี้พลูวิลล่าไปกันประมาน 10 คนลงเล่นน้ำ 8 คน ทุกคนปกติ ไม่อาการแพ้ใดๆ เลยตัดเรื่องน้ำออกไป เย็นมาก็ทายากินยาเหมือนเหมือนเดิม…..”และมีรูปภาพประกอบเป็นภาพชายคนหนึ่งที่มีสภาพร่างกายเป็นแผลพุพองเต็มตามร่างกาย มีเพื่อนสมาชิกเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

เพื่อเป็นตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้  ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งเขต อ.กันทรลักษ์   จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปพบกับ นายชนะชัย   อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 9 บ้านสวนหม่อน   ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา  อาชีพเป็นช่างคอมพิวเตอร์ มาทำงานติดตั้งคอมพิวเตอร์ที่ส่วนราชการแห่งหนึ่งของ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายชนะชัย ได้เปิดเสื้อให้ผู้สื่อข่าวได้ดูแผลพุพองตามร่างกาย  โดยแผลได้เริ่มแห้งและตกสะเก็ดแล้ว   มีร่องรอยของแผลเป็นทั่วร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามลำตัวและในร่มผ้า จะมีรอยแผลที่เกิดจากแผลพุพองกระจายเต็มตัว

นายชนะชัย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปรื้อวอลล์เปเปอร์ที่บ้านพักของตนเอง เพื่อที่จะทำห้องพักใหม่ปรากฏว่า หลังจากที่รื้อวอลล์เปเปอร์เสร็จแล้ว ตนได้มีอาการเป็นผื่นคันเล็กน้อยที่บริเวณสีข้างด้านขวายาวประมาณหนึ่งฝ่ามือ จากนั้นก็ได้ลุกลามไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณกลางลำตัวช่วงหน้าท้องและตามแผ่นหลัง ตนจึงได้ไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็น โรคอีสุกอีใสและให้ยามารับประทานแต่ว่าอาการก็ยังไม่ดีขึ้นยังมีอาการลุกลามไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณในร่มผ้า เมื่อเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ตนจึงได้ไปที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมาเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาล ซึ่งแพทย์แจ้งว่าตอนแรกไม่แน่ใจว่าแพ้ยาหรือว่าเป็นอาการแพ้สภาพแวดล้อม จึงได้ทำการตรวจเลือดและนอนพักที่โรงพยาบาล 1  คืนเพื่อดูอาการ  พออาการเริ่มดีขึ้นไม่มีอาการลุกลามเพิ่มขึ้นไปอีก แพทย์จึงได้อนุญาตให้ตนกลับบ้านได้ โดยให้ยามากินและทาตามแผลที่พุพองจนกระทั่งอาการดีขึ้น ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แผลได้ตกสะเก็ด ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ผ่านไปแพทย์ได้นัดไปตรวจซ้ำอีกทีนึงไม่พบว่าแพ้ยา แพทย์จึงวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นการแพ้สภาพแวดล้อมฝุ่นละอองหรือว่า สิ่งปนเปื้อนในอากาศฝุ่นละอองเป็นต้น จากอาการที่เกิดขึ้นนี้ ตนจึงขอฝากเป็นอุทาหรณ์ถึงประชาชนทั่วไปว่า ถ้ามีอาการแพ้เล็กน้อยหรือว่ามีผื่นคันตามร่างกายอย่าชะล่าใจ ควรที่จะไปพบแพทย์เฉพาะทางจะได้หาวิธีรักษาอาการเพื่อจะได้หาวิธีการในการรักษาพยาบาลได้ทันท่วงที จะได้ไม่ต้องปล่อยให้แผลพุพองลุกลามไปมากกว่านี้ และจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานเหมือนที่ตนประสบมา เพราะว่าทั่วร่างกายของตนมีอาการคันแผลและเจ็บแผลที่เกิดขึ้นตามร่างกาย เจ็บปวดและทรมานมากทั้งกลางวันและกลางคืน ใช้เวลาหลายวันกว่าที่จะหายจากอาการเจ็บปวดทรมานนี้