อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ศรีสะเกษ ทวงเงินค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง แกนนำเผยโดนคนนอกแทรกแซงการทำงานของพรรค
16 มิ.ย. 2566, 12:21
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักส่วนตัว นายธีรวัฒน์ คำศรี อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีตัวแทนของกลุ่มอดีตผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายนิมิตร จินาวัลย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายสวัสดิ์ โพธิสาร นายธีรวัฒน์ คำศรี นายปิยะนันท์ มั่นยืนยาว ได้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากว่า ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จ.ศรีสะเกษ กลุ่มผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้รับเงินค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ครบตามที่กำหนดไว้ และแจ้งว่ามีคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการดำเนินงานของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
นายนิมิตร จินาวัลย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายจารึก ซึ่งเป็นบุคคล ภายนอก โดยไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แต่ประการใด โดยได้อ้างตัวว่าเป็นผู้สรรหา และได้รับมอบหมายจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่งเป็นผู้ดูแลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ้างตัวว่าเป็นผู้สรรหาให้จัดการหาตัวผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในปี 2566 นี้ ต่อมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2566 นายจารึก ได้เรียกผู้สมัครทุกคนมี จ.ศรีสะเกษ ยโสธร มหาสารคาม และร้อยเอ็ด มาร่วมประชุมกันที่บ้านนายจารึกหลายครั้งติดต่อกัน ในการประชุมแต่ละครั้ง นายจารึกได้ติดต่อไปหาแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง โดยนายจารึกได้มีการประชุมผู้สมัคร ส.ส.แล้วสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ โดยนายจารึก มีเจตนาเป็นไปในทางครอบงำกล่าวคือ การกระทำใด ๆ ของนายจารึก จะให้คนใดคนหนึ่ง ที่เป็นผู้สมัครเอาไว้แล้วจะให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ก็ได้หรือจะไม่ให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ก็ได้ นี้คือการใช้อำนาจของนายจารึก ที่เข้ามาครอบงำจนเกิดมีปัญหา สุดท้ายมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครอยู่บ่อยครั้งตามอำเภอใจ ดังนั้นอาศัยเหตุผลดังกล่าว การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิด ตาม พรบ.เลือกตั้ง โดยมาตรา 28 กำหนดไว้ว่า ห้ามพรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคมาครอบงำ
นายนิมิตร จินาวัลย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปว่า การกระทำของนายจารึก มีเจตนาเรียกรับเงินจากผู้สมัครทุกคน 10 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนเงินที่ทางพรรคสนับสนุนให้ผู้สมัครแต่ละคนดังปรากฏตามเอกสารที่เป็นสลิปโอนเงิน และสำคัญมากไปกว่านี้ นายจารึก ได้กลั่นแกล้ง ตน โดยกล่าวหาว่าไม่ได้ออกหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ไม่มีป้ายหาเสียงซึ่งไม่เป็นความจริง จนทำให้ตนถูกลิดรอนสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์รับเงินจากทางพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนมาพร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ในที่สุดแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่งได้เรียกให้ตนไปรับเงินที่ จ.อุบลราชธานี จำนวนเงิน 50.000 บาท และ คงค้างจ่ายค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งอีกจำนวน 50,000 บาท ซึ่งอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ศรีสะเกษ และอีกหลายจังหวัดของภาคอีสานได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากว่า ต้องจ่ายเงินส่วนตัวในการออกหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ไปก่อนแล้ว ตนและคณะจึงได้ออกมาเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการตรวจสอบและเยียวยาในเรื้องนี้โดยด่วนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ทำหนังสือเรื่อง บุคคลภายนอกครอบงำพรรคประชาธิปัตย์ ถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ส่งไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา
นายธีรวัฒน์ คำศรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ศรีสะเกษ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่และเป็นพรรคการเมืองหลักพรรคหนึ่งของประเทศไทย ไม่ควรที่จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้โดยด่วนด้วย