ด.ต.สุทัศน์ ทองไทย หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงศรีประจันต์ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สารวัตรทางหลวงกาญจนบุรี ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.คำนวณ จันทร์อนันต์ รอง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ว่ามีผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทลิงแสม นำใส่รถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลขทะเบียน บพ 5356 พิจิตร สีขาว เพื่อจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ได้นัดหมายไว้ โดยใช้เส้นทางจาก  จังหวัดราชบุรี ผ่าน จังหวัดสุพรรณบุรี โดยใช้ ถนนทางหลวงหมายเลข 340 ผ่าน จังหวัดสุพรรณบุรี มุ่งหน้า จังหวัดสระแก้ว  จึงสั่งการให้ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี ทำการตรวจสอ

หลังได้รับคำสั่ง รถวิทยุคันหมายเลข 2622 ได้ออกตรวจสอบเขตพื้นที่รับผิดชอบ พบรถยนต์คันดังกล่าว มีหลังคาแครี่บอย ปิดฝาท้ายมิดชิดกำลังวิ่งอยู่บนถนนสาย 340 สุพรรณบุรี มุ่งหน้าไปจังหวัดชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับติดตามจนถึงหลักกิโลเมตร ที่ 95-96 ตตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์  เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด และแสดงตัวขอตรวจสอบ พบนายชุมแพร เที่ยงอยู่ (ทราบชื่อ-นามสกุลภายหลัง) อายุ 42 ปีอยู่บ้านเลขที่ 145 หมู่  9  ตำบลเนินบ่อ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร และนางเกิน เชา (ทราบชื่อ-นามสกุลภายหลัง) อายุ 38 ปี สัญชาติกัมพูชา ภรรยา

ตรวจสอบพบกล่องพลาสติกมีฝาปิดขนาดใหญ่อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว ในกล่องมีสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทลิง (ลิงแสม) ถูกกักขังอยู่ในถุงตาข่ายสีฟ้าบรรจุอยู่ภายในกล่องพลาสติกอย่างหนาแน่น จำนวน 5 ใบ รวมลิงแสมจำนวน 33 ตัว ซากลิงแสม 1 ซาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมประสานสพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สำนักงานสนับสนุนสนับสนุนการป้องกันการป้องกันและปราบปรามและประปาที่ 1 (ภาคกลาง) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ ร่วมตรวจค้นอย่างละเอียดภายในรถ พบป้ายทะเบียนหมายเลข 2 กญ 8298 กรุงเทพมหานคร ปลอม 2 อัน อุปกรณ์ท่อเป่ายาสลบ และหลอดยาสลบ เข็มฉีดยาจำนวนกว่า 100 เข็ม ที่บรรจุยาสลบเตรียมไว้เป่าจับลิงแสม

นายชุมแพร เที่ยงอยู่ ผู้ต้องหาให้การอ้างว่าไปจับลิงมาจากจังหวัดราชบุรี โดยใช้ลูกดอกยาสลบเปาใส่ลิงแล้วจับขึ้นรถมา เพื่อนำไปขายให้พ่อค้าปลายทางอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว  โดยนัดเจอลูกค้าที่มารับเพื่อ คนละครึ่งทาง ซึ่งตนจะขายลิงตัวโตได้ตัวละ 2000  บาท ตัวเล็กตัวละ 500-1,000 บาท แต่ไม่รู้ว่าคนซื้อเอาไปทำอะไร ตนทำมาแล้ว 1 ครั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ปกติตนมีอาชีพทำนา ว่างจากทำนาก็จะหาจับและรับซื้องูเห่าส่งขายให้นายทุน ก่อนพัฒนามาเป็นลิงแสม ครั้งนี้ตนโชคไม่ดีเลยถูกจับ ตอนนี้ทำนามันแย่ และก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร เลยหันมาจับลิงไปขาย ตนเคยมีประวัติถูกจับข้อหาครองครองสัตว์คุ้มครองประเภทนกขุนทองและนกเอี้ยง ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้มีคนเอาลิงมาทิ้งในเขตอำเภอเดิมบางนางบวช ใช่รายเดียวกันหรือไม่ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตน คนละเจ้ากัน และไม่รู้ของใครที่ตนทำไปก็สงสารลิงแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนอุปกรณ์ยิงยาสลบรวมทั้งยาสลบ ทั้งหมดเป็นของนายทุนจัดหามาให้ แต่ตนไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าที่ไหน

นายสัตวแพทย์หญิง ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ กล่าวว่า  เบื้องต้นต้องตรวจสภาพร่างกายของลิงก่อน ดูว่าจะจับแยกกันได้หรือไม่ เพราะเขาถูกจับใส่มาในถุงตาข่าย ถ้าเอามาใส่กรงรวมกัน ไม่แน่ใจว่าจะกัดกันหรือไม่ ดูจากสภาพการขนย้าย เป็นอันตรายต่อลิงมาก เพราะกล่องที่ใส่เป็นกล่องขนาดเล็กและมีการเจาะรูระบายอากาศไม่ดี ซึ่งถ้าขนย้ายระยะทางไกลอาจทำให้ลิงตายได้ ส่วนอุปกรณ์จับลิงพวกลูกดอกยาสลบ เท่าที่ตรวจคนทำต้องเป็นคนมีความรู้และเป็นมืออาชีพ  ซึ่งลิงทั้งหมดที่ยังมีชีวิตต้องรีบนำกลับไปที่บึงฉวาก เพื่อตรวจอาการ เพราะลิงที่พบน่าสงสารมากบางตัวศีรษะแตกเป็นแผล หลายตัวอ่อนแรง น่าเป็นห่วง

เบื้องต้นสันนิษฐานว่าแก๊งค์ค้าลิงรายนี้น่าจะเป็นขบวนการค้าลิงข้ามชาติรายใหญ่ ซึ่งลักลอบเคลื่อนย้ายลิงโดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่บ้านเมือง จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 การกระทำดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดตาม มาตรา 12 ประกอบมาตรา 89 ข้อหา ร่วมกันล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ , มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะขยายผลถึงตัวการใหญ่เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

มีเสียงนายชุมแพร ผู้ต้องหา  นายสัตวแพทย์หญิง ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ และ ด.ต.สุทัศน์ ทองไทย หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงศรีประจันต์