ครม.เห็นชอบ MOU ไทย-คอซอวอ ส่งเสริมความสัมพันธ์ เพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าไทย
20 มิ.ย. 2566, 15:09
วันนี้ ( 20 มิ.ย.66 ) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ว่า ครม.เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศและกิจการโพ้นทะเลสาธารณรัฐคอซอวอ โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจในช่วงการเยือนไทยของนายเครชนิก อาห์เมตี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศและกิจการโพ้นทะเลคอซอวอ ระหว่างวันที่ 22 -24 มิถุนายน 2566 นับเป็นกลไกความร่วมมือและการหารือทวิภาคีที่เป็นรูปธรรมกลไกแรกระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ
บันทึกความเข้าในฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเพิ่มพูนความร่วมมือในสาขาที่ตกลงร่วมกัน อาทิ การเมือง เศรษฐกิจ กงสุล วัฒนธรรม การท่องเที่ยว เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ รวมถึงประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยยึด 3 หลักการ คือ 1)ยึดถือหลักการความเป็นเอกราชและความเสมอภาคของอธิปไตย 2)การไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น และ 3)ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสาขาที่ตกลงร่วมกัน ส่วนกลไกดำเนินงาน จะมีการจัดประชุมทุกสองปีหรือตามที่ตกลงร่วมกัน โดยสถานที่จะสลับกันจัดขึ้นในไทยและในคอซอวอ ทั้งนี้ การจัดทำบันทึกความเข้าใจไม่ได้เป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อ ครม. ชุดต่อไป และสาระของบันทึกความเข้าใจไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตาม มาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า คอซอวอเป็นประเทศใหม่ในยุโรปที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและเศรษฐกิจของประเทศยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ อาหาร ปศุสัตว์ ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร สินแร่ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์เซรามิกและแก้ว และอุปกรณ์ไฟฟ้า ดังนั้น คอซอวอจึงมีศักยภาพที่จะเป็นตลาดรองรับสินค้าและการลงทุนจากไทยได้ โดยเฉพาะสินค้าอาหาร ข้อมูลในปี 2565 การค้าระหว่างคอซอวอและไทยมีมูลค่ารวม 12,868,581 ดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.68 จากปี 2564) โดยคอซอวอนำเข้าสินค้าจากไทยมูลค่า 12,654,501 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้าสำคัญ ได้แก่ 1)เนื้อเป็ดแช่แข็ง 2)ปลาทูน่ากระป๋อง 3)กระดาษ 4)เนื้อเป็ดแช่เย็น 5)ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ 6)เครื่องปรับอากาศ 7)เครื่องประดับเงิน 8)คอมพิวเตอร์ 9)เมล็ดพันธุ์พืช และ 10)เส้นใยสังเคราะห์