อธิการบดี มจร. ประกาศเชิงรุกขับเคลื่อนพลังจิตอาสาทั่วประเทศ นำความรู้จากสถาบันสู่สังคมเมื่อเกิดภัยพิบัติ สร้างความเข้มแข็งจิตใจให้ชาวบ้าน
7 ต.ค. 2562, 08:38
วันที่ 7 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชปริยัติกวี ศ.ดร.อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระเทพปวรเมธี,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร พระสุวรรณเมธาภรณ์,ผศ. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ พระเมธีธรรมาจารย์,รศ.ดร.รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา พระครูกิตติคุโณภาส รองอธิการบดีวิทยาเขตอุบลราชธานี พระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร, ดร คณะบดีบัณฑิตวิทยาลัย , ผศ.ดร.ฐานิดา มั่นคง รก.รองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ , พระศิวเดชน์ ญาณวโร รก.ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาเขตอุบลราชธานี พร้อมผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิต และจิตอาสา มจร ทั่วประเทศ เดินทางไปร่วมกันฟื้นฟู ปรับภูมิทัศน์ ทาสี ทำความสะอาดวัด ซึ่งเสียหายจากน้ำท่วมในอำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และแจกสิ่งของข้าวสาร อาหารแห้ง และมอบถวายกัปปิยภัณฑ์พระภิกษุสามเณรและแจกสิ่งของให้ประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม ในชุมชนวัดหนองกินเพลใหม่ วัดดอนงิ้ว วัดคูสว่าง วัดหนองกินเพลเก่า วัดกุดชุม วัดคูเดื่อ วัดเกาะแก้วคูณดี วัดท่ากกแห่ วัดกุดปลาขาว แห่งละ ๕๐๐ ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยเหลือสภาพจิตใจแก่พระภิกษุสงฆ์ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมช่วงที่ผ่านมา
พระราชปริยัติกวี ศ ดร. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดในภาคอีสาน ประชาชน พระสงฆ์ เดือดร้อนทั้งด้ายกายภาพและสภาพจิตใจจำนวนมาก มจร ฐานะสถาบันการศึกษาทางคณะสงฆ์แบะทางโลก ไม่ได้นิ่งนอนใจมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน จึงระดมสิ่งของช่วยเหลือจากชาว มจร ทั่วประเทศ ทั้งวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ ห้องเรียน หน่วยวิทยบริการ รวบรวมสิ่งของที่ได้รับบริจาคบรรจุถุงยังชีพ เพื่อรวบรวมนำมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดอื่นๆต่อไป โดยความร่วมมือจากผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และจิตอาสาของชาว มจร ทั่วประเทศมาช่วยกันฟื้นฟู ทาสี ปรับภูมิทัศน์ให้วัดที่เสียหายจากน้ำท่วม และแจกถุงยังชีพให้ประชาชนต่อไป
ต่อจากนี้สิ่งที่ชาว มจร. จะเดินหน้าเชิงรุกต่อไป คือการขับเคลื่อนบรรดาจิตอาสาของ มจร ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก ทั้งวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ จะมีจิตอาสาทำงานอยู่ในพื้นที่หลายแสนคน ซึ่งหากเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติ เช่นน้ำท่วม ภัยหนาว ภัยแล้ง จิตอาสา มจร จะต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชนในเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อน และบรรเทาสภาพจิตใจประชาชนให้พ้นทุกข์ให้ได้ เพื่อทำหน้าที่ให้อดคล้องกับปรัชญาของมหาวิทยาลัยที่จะต้องจัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม และพันธกิจหลักได้แก่ การผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ การวิจัยและพัฒนา ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคม และทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งจิตอาสา มจร จะต้องปฏิบัติภารกิจนี้อย่างเต็มที่ต่อไป
อธิการบดี มจร กล่าวและว่านิสิตที่จะจบการศึกษาในแต่ละปีนั้นนั้น หลักสูตรกำหนดให้ต้องบริการวิชาการ ปฏิบัติศาสนกิจคนละ ๒๐๐ ชั่วโมง ดังนั้นการทำหน้าที่จิตอาสาช่วยเหลือสังคมจะต้องถูกนำมามาใช้เพื่อการศึกษาอย่างเข้มข้นต่อไป มหาวิทยาลัยจะให้ความสำคัญเรื่องจิตอาสาอย่างเต็มที่ ขณะนี้บุคคลากร เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนพร้อมจะขับเคลื่อนในเชิงรุกต่อไป