รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ระบุว่า จากการที่คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา มีแนวทางในการหาแหล่งน้ำให้กับเกษตรกรทุกครัวเรือน ในพื้นที่โดยหลักของเราได้มีการทำฝายแกนดินซิเมนต์ ซึ่งมีลักษณะที่ไม่ได้ไปทำลายสิ่งแวดล้อมหรือสภาพนิเวศทางธรรมชาติแต่อย่างใด ซึ่งเราได้มีการทำฝายแกนดินซิเมนต์ กักเก็บน้ำไว้ ในระดับที่ประมาณ 1 เมตรครึ่ง เพื่อให้มีเพียงพอสำหรับฤดูแล้ง จึงทำให้เกษตรกรสามารถทำเกษตรได้ตลอดทั้งปีเป็นจำนวนมากขึ้น หลังจากที่เกษตรกรมีน้ำที่จะใช้ในการเกษตร เราก็จะช่วยเกษตรกรในการคิดที่จะทำอย่างไรที่จะปลูกพืชที่มีราคาสูงซึ่งปัจจุบันเกษตรกรก็ได้มีการเปลี่ยนมาปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง เช่นมะเขือม่วง แทนข้าว ข้าวโพด ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นเราพบว่าเกษตรกรเมื่อมีรายได้สูงก็จะสามารถนำเงินมาใช้จ่ายในเรื่องต่างๆได้รวมทั้งการใช้หนี้ ทำให้พวกเขาเริ่มจะปลดทุกข์ต่างๆ ได้ โดยคิดว่าในระยะยาวที่ตำบลเชียงม่วนแห่งนี้จะให้ทุกครัวเรือนมีน้ำเพื่อการเกษตรตลอดทั้งปีครบทุกครัวเรือน และมีการปรับปรุงการผลิตและความเป็นอยู่ และถือเป็นแนวทางแก้จนที่มีลักษณะเฉพาะตัวของเทศบาลตำบลเชียงม่วน และในระยะต่อๆไปก็จะหาทางทำฝายแกนดินซิเมนต์ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคิดว่าถ้าหากทำให้เกษตรกรทุกคนทุกครัวเรือนมีน้ำในเรื่องการเกษตรและน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ซึ่งทุกคนจะหลุดพ้นจากความยากจน อย่างแน่นอน เนื่องจากเกษตรกรมีความขยันขันแข็งเมื่อมีน้ำแล้วก็จะสามารถวางแผนผลผลิตและมีมูลค่าสูงขึ้น และเป็นการเกษตรที่ไม่ใช้เคมี เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งเราได้หารือกับทางจังหวัดในเรื่องของแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนตรงนี้โดยจะใช้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่นำร่องแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งจะถือเป็นที่แรกของประเทศเลยก็ว่าได้