เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ชีวิตต้องสู้ ! "แม่วัย 65 ปี" ต้องหาเลี้ยงลูกพิการติดเตียง และหลานกำพร้าอีก 2 คน ทั้งที่ตนเองก็เจ็บป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองโป่งพอง


24 มิ.ย. 2566, 19:56



ชีวิตต้องสู้ ! "แม่วัย 65 ปี" ต้องหาเลี้ยงลูกพิการติดเตียง และหลานกำพร้าอีก 2 คน ทั้งที่ตนเองก็เจ็บป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองโป่งพอง




ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สุรินทร์ ชีวิตต้องสู้ แม่วัย 65 ปี ต้องหาเลี้ยงลูกพิการติดเตียง และหลานกำพร้าอีก 2 คน ทั้งที่ตนเองก็เจ็บป่วยด้วยอาการเส้นเลือกในสมองโป่งพอง ต้องไปหาหมอทุกเดือน ทุกวันต้องออกไปขายของหาเลี้ยงครอบครัว พอได้กินได้ใช้ไปวันๆ วอนขอความช่วยเหลือข้าวสารอาหารแห้ง และแพมเพิสมาเลี้ยงดูแลลูกที่พิการและหลานเรียนหนังสือ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 136 หมู่ที่ 15 ต.รัตนบุรี จ.สุรินทร์  หลังจากได้ทราบข่าวจาก นายปรีชา สีโสดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนบุรี ว่า  มีครอบครัวยากไร้รายหนึ่ง  ที่มีชีวิตลำบาก แม่คนเดียวต้องหาเลี้ยงลูกชายวัย 41 ปี ที่พิการป่วยติดเตียงจากอุบัติเหตุ 1 คน  และหลานอีก 2 คนที่กำพร้าแม่ และกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ปวช.ปี 1 และชั้น ป.6 ส่วนพ่อเด็กก็ออกไปหาทำงานรับจ้างพอได้กินไปวันๆ  

โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับ นาง นาง ฑีฆะวัฒน์ วัย 65 ปี หรือยายจิ๋ว ผู้เป็นแม่ที่ต้องหาเลี้ยงลูกพิการและหลานอีก 2 คน  ในบ้านชั้นเดียว  ที่ปัจจุบัน ชาวบ้านและญาติพี่น้อง  ได้พากันมาช่วยซ่องแซมบ้านให้ใหม่  จากเดิมเป็นบ้านปูนก่ออิฐบล็อกเก่าๆ ไม่ทาสี และหน้าต่างประตูไม้ก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่เป็นประตูม้วนเหล็ก  เพื่อที่จะได้เข็นเตียงลูกชายที่ป่วยพิการติดเตียงออกมารับอากาศข้างนอกบ้านได้  โดยมีรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง  ที่ดัดแปลงเป็นร้านขายน้ำ ขายกาแฟเคลื่อนที่ เพื่อที่จะได้ออกไปขายหารายได้เลี้ยงครอบครัว  ด้วยตัวคนเดียวทุกวัน  ตั้งแต่เช้ายันค่ำ  ซึ่งรายได้ก็พอได้กินได้ใช้ไปวันๆเท่านั้น  

 




นาง นาง ฑีฆะวัฒน์ วัย 65 ปี หรือยายจิ๋ว เล่าว่า ทุกวันนี้ตนต้องหาเลี้ยงลูกและหลานเพียงลำพังคนเดียว  เนื่องจากสามีได้เสียชีวิตไปกว่า 10 ปีแล้ว  ต่อมาลูกชายที่เคยขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างหาเลี้ยง  ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุ  จนต้องพิการร่างกายเป็นอัมพาตต้องนอนติดเตียงมาจะ 4 ปีแล้ว  ทำให้ตั้งแต่นั้นมา  ตนจึงต้องออกขายของหาเลี้ยงลูกและหลานอีก 2 คนที่กำลังเรียนหนังสือ เพราะกำพร้าแม่  ส่วนพ่อก็ออกไปทำงานรับจ้างพอได้กินไปวันๆ เท่านั้น   ทำให้ภาระทุกอย่างจึงตกมาที่ตนคนเดียวที่จะต้องหาเลี้ยงทั้งหมด  โดยทุกวันจะต้องคอยหุงหาอาหารมาให้หลาน 2 คนกินก่อนไปโรงเรียน และคอยป้อนช้าวลูกชายที่พิการกิน จากนั้นก็เจะช็ดตัวให้ จนถึงเวลา 10 โมงเช้า ก็จะออกไปขายของที่บริเวณหน้าตลาดสด ซึ่งเป็นน้ำอัดลมและกาแฟรถพ่วง พอถึงช่วงบ่าย 1 โมง ก็จะต้องกลับมาดูแลลูกชาย  หาข้าวปลามาป้อนให้กิน  เสร็จแล้วจึงจะออกมาขายของต่อ จนถึงเวลา 5 โมงเย็นก็จะกลับมาหุงข้าว  บางทีก็จะซื้อกับข้าวสำเร็จมาให้ลูกและหลานกิน  จากนั้นก็ทำความสะอาดบ้าน ล้างถ้วยจาน  จนถึงเวลา 3 ทุ่มก็เข้านอนพักผ่อน  และจะตื่นขึ้นมาอีกทีตอน 6 ทุ่ม  เพื่อจะออกไปหาเก็บขยะมาไว้ขาย  ซึ่งก็มีผู้ใจบุญตามร้านค้าต่างๆในตัวอำเภอรัตนบุรี  ได้ให้ลังกระดาษและขวดมาให้เอาไปขาย โดยจะวางไว้ให้ที่หน้าร้าน จนกระทั่งเวลาตี 1 จึงได้กลับมานอน  เพื่อจะได้รีบตื่นแต่เช้ามาหุงหาอาหารให้ลูกและหลานกิน  เป็นเช่นนี้ทุกวัน  ยกเว้นวันที่ตนต้องเดินทางไปหาหมอในแต่ละเดือน  โดยจะต้องไปเดือนละ 1 ครั้ง ก็จะฝากญาติๆมาช่วยดูแลให้แทน เนื่องจากตนป่วยเป็นโรคเส้นเลือกในสมองโป่งพอง  ต้องไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งก็ต้องหาเงินเหมารถไปครั้งละ 3 พันบาท  บางครั้งไม่มีเงินก็ต้องไปหากู้เงินนอกระบบมาใช้  แต่ก็ยังดีที่ยังมีนายกฯปรีชา สีโสดา นายก อบต.รัตนบุรี ที่ทราบข่าว  ก็ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินและของใช้  ซึ่งตนก็ยังเป็นห่วงว่า  หากวันหนึ่งตนไม่สามารถออกไปขายของหาเลี้ยงลูกและหลานได้  พวกเขาจะอยู่กันอย่างไร  ทำให้ตนเป็นห่วงมากในเรื่องนี้  



ด้านนายปรีชา สีโสดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนบุรี ได้กล่าวว่า สำหรับครอบครัวของคุณยาย  หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุจนลูกชายต้องพิการ เมื่อ 3 – 4 ปีที่แล้ว  ทาง อบต.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ  ซึ่งตนก็ได้เข้ามาสอบถามแล้วก็เก็บข้อมูล  เพื่อให้การช่วยเหลือ  ทั้งงบจาก อบต.  และงบส่วนตัว และพี่น้องในหมู่บ้านก็ได้มาช่วยกัน แต่เนื่องจากว่าระยะการดูแลที่ยาวนาน ก็ทำให้คุณยายก็ยังต้องลำบากอยู่ ตนก็อยากจะขอวิงวอนผู้ที่มีจิตศรัทธา  ที่พอจะมีกำลัง ก็ขอได้โปรดช่วยเหลือคุณยายและครอบครัวด้วยกัน  ซึ่งก็ขอเป็นสิ่งของ ข้าวปลาอาหารแห้ง และแพมเพิสสำหรับลูกชายที่นอนติดเตียง  โดยส่งมาตามที่อยู่ของคุณยายคือ บ้านเลขที่ 136 หมู่ที่ 15 ต.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ หรือจะโทรฯติดต่อสอบถามกับคุณยายเองก็ได้ที่เบอร์โทร 062-3543186  ชื่อคุณยาย นาง ฑีฆะวัฒน์ วัย 65 ปี หรือยายจิ๋ว  และสำหรับในส่วนของ อบต.เองนั้น  เรามีเคสแบบนี้อยู่มากมายหลายราย  ทำให้เราต้องเฉลี่ยเข้าไปดูแลให้ทั่วถึงทุกราย  ดังนั้นการช่วยเหลือคุณยายก็ช่วยเหลือได้ในระดับหนึ่ง  จึงต้องขอแรงผู้มิจิตศรัทธา  ได้ร่วมมาช่วยเหลือครอบครัวคุณยายด้วยกัน  เพื่อที่คุณยายจะได้ไม่ต้องลำบากมาก  เพราะต้องหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพังคนเดียว  ในขณะที่ตนเองก็ป่วยและอายุมากแล้วด้วย

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.