วันนี้ (27 มิถุนายน 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมการจัดการประชุมผู้ประกอบการชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 (The 16th World Chinese Entrepreneurs Convention : WCEC) จัดขึ้นได้อย่างยิ่งใหญ่ มีนักธุรกิจเชื้อสายจีนและนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลจากทั่วโลกกว่า 4,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก เชื่อมั่นเป็นโอกาสสำคัญต่อยอดเชื่อมโยงเครือข่าย แลกเปลี่ยนข้อมูล และโอกาสทางธุรกิจ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุม WCEC ครั้งนี้ นับเป็นช่องทางสำคัญที่นักธุรกิจชาวจีนจะได้รับทราบพัฒนาการทางเศรษฐกิจของไทย และโอกาสในการลงทุนในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลไทยโดยกระทรวงพาณิชย์มุ่งขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการขยายความร่วมมือในมิติต่าง ๆ สอดคล้องกับข้อริเริ่ม Belt and Road จัดทำ mini FTA ซึ่งปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ลงนาม 3 ฉบับลงนามกับจีน ประกอบด้วย 1. มณฑลไห่หนาน 2. มณฑลกานซู่ และ 3.เมืองเซินเจิ้น และในเดือนสิงหาคมจะลงนามเพิ่มกับมณฑลยูนนานของจีนต่อไป ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้มหาศาลในอนาคต

โอกาสนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ร่วมเสวนาเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทยในงานดังกล่าว โดยได้หยิบยกจุดแข็งของประเทศไทยเพื่อดึงดูดการลงทุนจากจีน ทั้งความได้เปรียบเรื่องจุดศูนย์กลางของภูมิภาค มีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ มีบุคลากรและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน มีมาตรการและสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จูงใจนักลงทุน รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อทุกประเทศ ปลอดภัยจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ โดยข้อมูลจากหอการค้าไทย-จีน ยังพบว่า นักลงทุนจีนให้ความสนใจลงทุนในไทย โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (EV) คาดว่าช่วงจัดงานมีเงินสะพัดเศรษฐกิจไทย 500 ล้านบาท และมีเป้าหมายดึงต่างชาติมาลงทุนเพิ่มขึ้น จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาท