เรือนจำประจวบฯ เปิด "หับเผย" 4 อาชีพ ฝึกผู้ต้องขังก่อนพ้นโทษ
29 มิ.ย. 2566, 13:06
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 28 มิ.ย.66 ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบฯ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางมาเป็นประธาน ในพิธีเปิดโครงการ ฝึกวิชาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้ผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มี วิชาชีพติดตัวออกไปประกอบอาชีพในสังคมภายนอกหลังพ้นโทษ และจะได้ไม่กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก โดยมี นายมิตรารุณห์ พรหมอินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี
สำหรับโครงการฝึกวิชาชีพให้กับผู้ต้องขังของเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนพ้นโทษ โดยใช้ชื่อสถานที่การฝึกแต่ละวิชาชีพว่า "หับเผย" ซึ่งมี 4 อาชีพ ประกอบด้วย 1.ร้านหับเผย คาเฟ่ by เมืองสามอ่าว โดยจะเป็นการฝึกทักษะวิชาชีพทางด้านการชงกาแฟสดและน้ำปั่น 2.ร้านหับเผย คุกคาร์แคร์ คาร์แคร์หน้าคุก เป็นโครงการฝึกทักษะวิชาชีพการล้างอัดฉีดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 3.ร้านหับเผย จำหน่ายผลิตภัณฑ์ by เมืองสามอ่าว เป็นโครงการฝึกทักษะการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ และ 4.ร้านหับเผย ซัก อบ รีด เป็นโครงการฝึกทักษะวิชาชีพด้านการซัก อบ รีด ซึ่งทั้ง 4 โครงการนี้ เมื่อผู้ต้องขังได้รับการฝึกทักษะจนเป็นผู้มีความรู้ มีประสบการณ์ สามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ภายหลังการพ้นโทษ ลดภาระของครอบครัว และสังคมได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษไม่คิดกลับมากระทำความผิดซ้ำอีก
นายมิตรารุณห์ พรหมอินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหนึ่งของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีภารกิจในการควบคุมและพัฒนานิสัยของผู้ต้องขังให้กลับตนเป็นคนดีพร้อมสำหรับการคืนคนดีสู่สังคม เป็นการสนองนโยบายของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งการเปิดการฝึกทักษะวิชาชีพ ทั้ง 4 โครงการนี้ ทางเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เปิดให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไปภายนอก สามารถเข้ามาใช้บริการได้ในราคาถูก เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน สร้างรายได้ให้แก่ตัวผู้ต้องขังและครอบครัว เป็นทุนสำหรับใช้ในการประกอบอาชีพสามารถอยู่ร่วมกับสังคมภายนอกได้อย่างปกติสุข เป็นการคืนคนดีสู่สังคมต่อไป
ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ มีนโยบายส่งเสริมให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ดำเนินการแก้ไขพัฒนานิสัยให้กับผู้ต้องขัง ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงส่งเสริมการฝึกทักษะวิชาชีพและสร้างโอกาสการมีงานทำภายหลังพ้นโทษ ซึ่งการฝึกวิชาชีพเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสามารถทำให้ผู้ต้องขังนำไปใช้ประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวภายหลังพ้นโทษได้ โดยทางเรือนจำจะคัดเลือกผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี ซึ่งเหลือโทษไม่เกิน 3 ปี และมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ได้เตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้สามารถปรับตัวเข้ากับสังคม โดยฝึกวิชาชีพด้วยการลงมือปฏิบัติจริงและมีรายได้จากเงินรางวัลปันผลจากการฝึกวิชาชีพและการทำงาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจสามารถสะสมเป็นเงินทุนภายหลังการพ้นโทษ รวมถึงสามารถเป็นสวัสดิการของผู้ต้องขังภายในเรือนจำได้อีกด้วย