วันนี้ ( 29 มิ.ย.66 ) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (29 มิถุนายน 2565) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2566 เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ มูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 จนถึงปัจจุบัน โดยมีนายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ มูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน พร้อมด้วยบุคคลผู้ได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน ผู้ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณฯ ระดับยอดเยี่ยม และดีเด่น ทายาท/ครอบครัวผู้เสียสละชีวิต เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานการมอบเงินสนับสนุนการดำเนินงานด้านยาเสพติดระหว่างผู้แทนมูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน มอบเงินสนับสนุนฯ ให้แก่เลขาธิการ ป.ป.ส. จำนวน 500,000 บาท เพื่อนำเงินดังกล่าวไปมอบให้กับบุคคลและองค์กรที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2566 จำนวน 19 ราย ประกอบด้วย 1) โล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานระดับยอดเยี่ยม จำนวน 4 ราย 2) โล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานระดับดีเด่น ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้ารับเงินรางวัล มูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน จำนวน 5 ราย 3) โล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานระดับดีเด่น จำนวน 6 ราย และ 4) โล่ให้ทายาท/ครอบครัวผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านยาเสพติด จำนวน 4 ราย สำหรับปี 2566 คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจำนวนทั้งสิ้น 99 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณระดับยอดเยี่ยม จำนวน 4 ราย และผู้ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณระดับดีเด่น แบ่งเป็นด้านต่าง ๆ 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการส่งเสริมการแก้ไขปัญหายาเสพติด 2) ด้านการปราบปรามยาเสพติด 3) ด้านการบำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาผู้ติดยาเสพติด และ 4) ด้านการป้องกันยาเสพติด จำนวน 49 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน จำนวน 5 ราย และผู้ได้รับโล่เชิดชูเกียรติในการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 46 ราย

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีกับบุคคล องค์กรที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2566 ซึ่งรางวัลนี้เป็นเครื่องหมายแห่งคุณงามความดี การมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จนปรากฏผลงานเป็นรูปธรรม พร้อมขอเชิดชูเกียรติผู้ที่เสียสละชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่สำคัญนี้ ซึ่งผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาขับเคลื่อนให้ประเทศชาติมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุขโดยทั่วกัน รวมทั้งรางวัลนี้จะเป็นพลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน องค์กรที่ทำงานด้านยาเสพติด โดยขอให้ทุกคน ทุกองค์กร ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงการร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดว่าเป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่องจริงจัง และมีการพัฒนากระบวนการวิธีการดำเนินงานต่าง ๆ ในทุกมิติให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านการป้องปราม ป้องกัน การลงโทษผู้กระทำผิดให้เป็นไปตามกฎหมาย ตลอดจนการบำบัดรักษา ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญในการช่วยลดระดับความรุนแรงพฤติกรรมของผู้ติดยาเสพติด ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสังคม ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนปัจจุบันในนามรัฐบาลได้แสดงเจตนารมณ์ในการป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มงวดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง การดำเนินการให้ประสบผลสำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ต้องมีการประสานงานและความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่องเข้มแข็งเพื่อให้งานเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับและเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายความมั่นคง และกองกำลังภาครัฐต่าง ๆ ตามแนวชายแดน ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต้องได้รับการแก้ไขโดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากบุคลากรของรัฐเองต้องแก้ไขโดยเร็ว ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก รวมถึงต้องสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกัน

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ส. ว่า ต้องมีการบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องใกล้ชิด และให้มีมาตรฐานสูงยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือในทุกมิติ เพื่อทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและปลอดภัย เป็นสังคมที่ปลอดภัยและปลอดจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องของการบำบัดรักษา ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและได้เน้นย้ำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ และชุมชน ในเรื่องการคัดแยกผู้ติดยาเสพติดในแต่ละระดับความรุนแรงที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรต้องมีการจัดสถานที่บำบัดให้สอดคล้องในแต่ละระดับความรุนแรงดังกล่าว และให้เพียงพอเหมาะสม รวมทั้งให้มีราคาที่แต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง เกิดความเท่าเทียมกับทุกฝ่ายตามศักยภาพของแต่ละคน 

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลและประเทศไทยให้ความสำคัญมุ่งมั่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศในการสร้างความเข้าใจกับสังคม ซึ่งประเทศไทยไม่ได้ทิ้งปัญหายาเสพติดไว้เบื้องหลัง เพราะถือเป็นปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบต่อสังคมและประชาชน ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมกันกำจัดยาเสพติดให้หมดไปให้ได้ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ที่มีอยู่ รวมถึงกระบวนการทางกฎหมาย เป็นต้น พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้อวยพรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนและครอบครัว ให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง สมบูรณ์ เพื่อร่วมกันเป็นกำลังสาคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยตลอดไป

ทั้งนี้ การจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ ปี 2566 เป็นการจัดพร้อมกันทั่วประเทศผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ไปยังสำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง (ดินแดง) และสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 - 9 ด้วย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ตั้งสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค เป็นผู้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ และเชิญผู้บริหารจากหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง อัยการ ทหาร ตำรวจ สาธารณสุข เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณดังกล่าวด้วย