ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราชได้คลิ๊ปภาพจากกล้องหน้ารถคันที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 03.16น.วันที่ 4กค.2566 ขณะที่ นส.ลลิลญา ขับรถไปตามถนนสายเอเชีย41 ขาล่องใต้ เข้าพื้นที่ ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช กล้องหน้ารถได้บันทึกภาพนาทีก่อนเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะคันที่ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ป้ายแดง มาจอดรถรอริมถนนสายเอเซีย และเมื่อผู้ตายขับรถผ่านไป รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับไล่ตามหลังและขับตามประกบแซงด้านขวา โดยมีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์2คนนั่งมาด้านท้ายกระบะได้ใช้อาวุธปืน9มม.ยิงถล่มใส่บริเวณกระจกรถและตัวถังรถตรงที่นั่งคนขับพรุน17รูซึ่งคาดว่าคนร้ายใช้ปืน2กระบอกทำให้ นส.ลลิลญา ถูกยิงร่างพรุนขับรถประคองไปตามถนนเรื่อย ๆและกล้องหน้ารถยังบันทึกภาพขณะที่รถยนต์กระบะของคนร้ายขับแซงขวาหนีหายไปอย่างชัดเจน ก่อนที่ นส.ลลิลญาจะพยายามขับประคองรถไปจอดเสียชีวิตที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้นำหลักฐานกล้องหน้ารถไปตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
ขณะเดียวหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมชาย   ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ด้วยตนเองทันทีที่ สภ.นาบอน โดยตำรวจมีการพยานหลายปากทั้งสามีผู้ตายและทีมงานคนขับรถบริษัทขนส่งนมบริษัทเดียวกันที่ขับตามหลังกันมาจำนวน6คันมาสอบสวนปากคำอย่างละเอียด โดยสั่งเร่งรัดให้ตำรวจ สภ.นาบอนเร่งทำการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกม.โดยเร็วต่อไปแล้ว
โดยเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ตำรวจ สภ.นาบอน ตั้งปมสังหารไว้ 2ประเด็น คือประเด็นแรกเรื่องขัดแย้งส่วนตัวของผู้ตายหรือสามีผู้ตาย และอีกประเด็นตำรวจสอบสวนทราบว่ามาจากความขัดแย้งในเรื่องในสัมปทานธุรกิจส่งนมไปยังประเทศมาเลเซียซึ่งเบื้องลึกสอบสวนพบว่ามีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ ซึ่งตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็วต่อไป