ผู้ช่วยผญ.บ้านร้องถนนพังเหตุรถบรรทุกดินขนดินที่ขุดออกจากพื้นที่ทับซ้อนป่าทำเลเลี้ยงสัตว์
5 ก.ค. 2566, 21:46
วันที่ 5 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวประจำจ.สุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนจากนายบุญชื่น นพเก้า อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านเบาะอุ่น ต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ว่าชาวบ้านได้รับความเดือดเนื่องจากถนนทางลูกลังที่ใช้สัญจรเป็นทางลัดจากบ้านบึง-เบาะอุ่นไปบ้านห้วยราช และเป็นเส้นทางใช้ขนพืชผลทางการเกษตร,ขนปุ๋ยไปหว่านในนาข้าว เกิดการชำรุดเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ เวลาฝนตกรถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ สาเหตุสืบเนื่องจากรถหกล้อบรรทุกดินที่ขุดดินมาจากพื้นที่ทับซ้อนเขตป่าทำเลเลี้ยงสัตว์วิ่งผ่าน พร้อมขอให้มีการตรวจสอบแนวเขตป่าทำเลเลี้ยงสัตว์ ที่เคยมีพื้นที่จำนวน 800 กว่าไร่ ว่าตอนนี้เหลืออยู่จำนวนกี่ไร่ เพราะจากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่และคนที่เคยนำเจ้าหน้าที่ที่ดินไปชี้ปักหมุดเขตป่า บอกว่าพื้นที่ที่มีการขุดสระจำนวน 2 ลูกที่ขุดเสร็จไปแล้วและที่อีกหนึ่งลูกที่กำลังจะขุดเป็นพื้นที่ของเขตป่าทำเลเลี้ยงสัตว์ จึงอยากให้สื่อช่วยนำเสนอทั้งในเรื่องของถนนพังและเรื่องการขุดดินบนพื้นที่ดังกล่าวด้วยผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ โดยมีนายบุญชื่น นพเก้า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านผู้ร้องและนายตุม อยู่รอย อายุ 73 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านบึง พาลงพื้นที่ พบว่าถนนมีการชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเป็นระยะๆตลอดสาย รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เนื่องจากเป็นหลุมดินเหนียวพอฝนตกลงมาก็กลายเป็นดินโคลน ส่วนป่าทำเลเลี้ยงสัตว์ก็ได้แปลสภาพเป็นทุ่งนาที่ชาวบ้านใช้ทำมาหากิน ไม่มีสภาพผืนป่าให้เห็นแล้ว
นายบุญชื่น นพเก้า ผู้ร้องบอกว่า ตนก็ไม่รู้ว่าผู้ที่ขุดดินครอบครองสิทธิเป็น สค.1 หรือเปล่าตรงนี้ไม่รู้เพราะไม่เคยเห็น แต่พอเขาขุดเสร็จทางก็มีสภาพแบบนี้มา 2-3 ปีแล้ว พอหน้าฝนรถก็จะผ่านไม่ได้ แต่ก่อนสภาพถนนจะเป็นถนนหินคลุกตลอดสาย การสัญจรสบายถึงฝนจะตกก็ไม่เป็นไร เป็นเส้นทางลัดช่วยย่นระยะทาง ซึ่งตนและชาวบ้านก็จะใช้เส้นทางนี้ประจำเพื่อไปอำเภอ ผ่านมา2-3ปีนี้ใช้ไม่ได้เลย เป็นผลพวงที่เกิดจากการขุดขนดินไปขาย แต่ละที่ทั้งสองสระความลึกประมาณ 7 เมตร ที่ตนออกมาร้องเรียนก็อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในบ้านเมืองออกมาดูแลเรื่องนี้หน่อย รวมถึงหน่วยงานในด้านที่ดินด้วย เพราะตั้งแต่ตนจำความได้ตา ยาย ก็บอกว่าตรงนี้เป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ อยากให้มาตรวจสอบว่าป่าทำเลเลี้ยงสัตว์ จำนวน 800 กว่าไร่มีการออก สค.1 ได้อย่างไร ใครมีสิทธิออกคนไหนพาไปออกเอกสารสิทธิตรงนี้ ตนและชาวบ้านอยากจะรู้ ตอนนี้ขุดเสร็จไปแล้ว 2 สระ อีกสระกำลังเริ่มขุด แต่ตนได้ร้องเรียนไปก่อนว่าให้หยุดตรวจสอบก่อนไม่ใช่ว่าจะมีแต่ตนที่ร้องเรียนเรื่องที่ป่าทำเล เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมาก็เคยมีคนร้องเรียนเรื่องนี้ แต่ตอนนี้คนรุ่นนั้นก็ได้เสียชีวิตไปหลายคนแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีการแก้ไขตรวจสอบ ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีหนังสื่อจากสำนักนายกรัฐมนตรีส่งมาที่ อบต.บ้านแร่ ให้ตรวจสอบพื้นที่ป่าทำเลจำนวน 800 กว่าไร่นี้ หนังสือมาถึงเดือนกว่าแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นทาง อบต.มาดำเนินการอะไร ก็อยากให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตนเป็นผู้ช่วยมา 2 ปีกว่าแล้วเหลือเวลาอีกแค่ 2 ปี ตนจะสู้เรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
ขณะที่นายตุม อยู่รอย อดีต ผญ.บ.ม.6 ก็ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูแนวเขตที่เคยร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐออกวัดปักเสาแนวเขตป่าทำเลเลี้ยงสัตว์ เมื่อปี 2534 บอกว่า ตอนที่มาวัดตนเป็นกรรมการหมู่บ้านยังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านเลย ตนจำได้หมดว่าหลักเขตอยู่ตรงไหนบ้าง แต่ตอนนี้เสาหายไปหมดแล้ว ตอนนั้นที่ป่าทำเลเลี้ยงสัตว์มีทั้งหมด จำนวน 800 กว่าไร่ ตนยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ กินพื้นที่ 4 หมู่บ้าน สภาพตอนนั้นยังเป็นป่าอยู่ ส่วนที่กลายมาเป็นที่ สค.1 ได้อย่างไรไม่รู้
นายวัชรินทร์ พิมเก่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแร่ กล่าวว่า เรื่องปัญหาถนนจากบ้านบึงมาบ้านห้วยราชที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ทาง อบต.บ้านแร่ ก็ได้เข้าตรวจสอบและหาแนวทางซ่อมแซม ส่วนปัญหาทราบว่าเกิดจากการขุดดินขนดินของชาวบ้าน ซึ่งเราก็ได้แจ้งให้มาซ่อมแซมซึ่งผู้ดำเนินการก็ได้มาซ่อมแซมไปบ้างส่วนแล้ว พอระยะเวลาผ่านไปก็เกิดการชำรุดขึ้นอีก ซึ่งทาง อบต.ก็จะต้องแก้ปัญหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนเรื่องการขุดดินในพื้นที่ป่าสาธารณะตามที่ชาวบ้านกล่าวอ้างนั้น ตรงนี้เราก็ยังไม่แน่ชัด เพราะผู้ที่ขออนุญาตขุดได้นำเอกสาร สค.1 และมีวิศวกรรับรองการออกแบบมาแสดงในการขุดดิน เพื่อที่จะใช้น้ำในการเกษตร อบต.จึงได้อนุญาตไปตามขั้นตอน และพอเกิดการร้องเรียนในการขุดขึ้น ทางอบต.บ้านแร่และฝ่ายปกครองก็ได้เข้าไปดูแล้วก็ทำการระงับการขุดไว้ก่อน ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่ผู้ดำเนินงานกำลังเกลี่ยพื้นที่เตรียมทำการขุด และก็ได้รับแจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจเป็นที่ทับซ้อนป่าทำเลเลี้ยงสัตว์ของหมู่ 6 บ้านบึง ตนจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ระงับใบอนุญาตในการขุด หลังระงับใบอนุญาตก็อยู่ในช่วงที่กำลังตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารสิทธิและตรวจสอบระวางเขตป่าทำเลว่าอยู่ในพื้นที่ที่เขาขออนุญาตมาหรือไม่ ตอนนี้อยู่ระหว่างส่งเรื่องไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งคงใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่ดินจะตอบรับมา ส่วนการแก้ไขปัญหาถนนที่พังนั้นจริงๆเราได้ประชุมดำเนินการก่อนที่จะมีปัญหาร้องเรียนแล้ว ซึ่งถนนเส้นมีระยะทาง 1 กิโลเมตร คือจะลงเป็นถนนดินหินคลุกไปก่อน เพราะทาง อบต.บ้านแร่ ก็มีงบประมาณไม่มาก
นายจินตวัฒน์ ศรินเสามั่น รักษาการปลัด อบต.บ้านแร่ กล่าวว่า พื้นที่ป่าทำเลดังกล่าวคาบเกี่ยวอยู่ 2 ตำบล คือตำบลเขวากับตำบลบ้านแร่ ซึ่งทั้ง 2 ตำบลก็ไม่ทราบแนวเขตที่แน่นอน การตรวจสอบก็ยังไม่ทราบผลว่าตรงไหนเป็นที่สาธารณะประโยชน์จริงๆ เพราะชาวบ้านเขาครอบครองเอกสารสิทธิ สค.1 เหตุที่เขามาขอขุดดินก็เพราะเขามีเอกสารสิทธิครอบครอง ดังนั้นในส่วนของ อบต.ก็มีหน้าที่อนุญาตไปตามหน้าที่ แต่เมื่อมีผู้ร้องเรียนว่าสถานที่ตรงนั้นอาจจะคาบเกี่ยวกับที่สาธารณะประโยชน์ ทางนายก อบต.ก็มีอำนาจที่จะระงับใบอนุญาตไว้ก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการระงับไว้แล้ว
ด้านนายสนม ถือฉลาด ผอ.กองช่าง อบต.บ้านแร่ กล่าวว่า แนวเขตที่ชัดเจนของการขึ้นทะเบียนที่เป็นที่ทำเล ตรงนี้ไม่มีใครทราบเพราะว่ามันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย ซึ่งรุ่นนั้นอาจเสียชีวิตไปหมดแล้ว พอมารุ่นหลานๆก็ไม่มีใครแน่ใจว่าแนวเขตอยู่ตรงไหนกันแน่ เราก็เลยต้องผ่านขบวนการเพื่อตรวจสอบที่ทำเลโดยการไปขอคัดถ่ายระวางจากที่ดินมาก่อน จากนั้นก็มาประชุมหมู่บ้านที่คาบเกี่ยวกับพื้นที่ป่าทำเล เพื่อจะหาข้อยุติอีกทีหนึ่งแล้วหาแนวเขตที่ชัดเจน ซึ่งขบวนการตรงนี้เราก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเสร็จภายในเดือนไหน ใช่เวลาเท่าใดแต่เราก็จะดำเนินการตามขั้นตอนไป