"4 สาว" เข้าแจ้งความร่างทรงกุมารทอง หลอกตุ๋นเงินกว่า 6 แสนบาทแล้ว
7 ก.ค. 2566, 05:23
จากกรณีสาวอ้างเป็นร่างทรงกุมารทองชื่อ “พี่เปีย” ตุ๋นเพื่อนสาวสายมูที่เคยอาศัยอยู่หมู่บ้านใกล้กัน และคบกันมากว่า 5 ปี อ้างต่างๆ นานา ทั้งอ้างว่ามีเคราะห์ ทั้งยืมเงิน และลวงว่าจะซื้อรถมือสองในราคาถูกให้ จนเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้รวมกันกว่า 6 แสนบาท พอรู้ว่าถูกหลอกจึงทวงถามขอเงินคืน และนัดแล้วไม่จ่ายจึงเข้าร้องเรียนกับสื่อเพจดัง สุดท้ายวันนี้จึงเข้าแจ้งความเอาผิดในข้อหาฉ้อโกง
เมื่อเวลา 15:36 น.วันที่ 6 ก.ค.พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ ผกานนท์ สว.(สอบสวน) สภ.ดอนหญ้านาง ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ได้มี นางชลภัสสรณ์ กุลธวัชชยานันท์ อายุ 43 ปี ที่อยู่ 24 ม.6 ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ มาพร้อมด้วย นางจิณณ์ณณัช กิตติเกียรติธนัช อายุ 43 ปี ที่อยู่ 57 ม.8 บ้านนาล้อม ต.หนองหัวช้าง, น.ส.สุวรินทร์ ธนัทพันธ์สิริ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 20 หมู่ 2 บ้านโคกสว่าง ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ และอีกรายที่ไม่ขอเปิดเผยนาม เข้าพบ เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นางแพรวทิพย์หรือลูกแก้ว วรรธน์จรรย์ อายุ 47 ปี อาชีพดูดวงไพ่ยิปซีและดูดวงเปลี่ยนชื่อใหม่ ในข้อหาฉ้อโกง โดยผู้แจ้งเล่าว่า ประมาณ ปีพ.ศ.2559 นางแพรวทิพย์หรือลูกแก้ว วรรธน์จรรย ซึ่งมาเป็นสะใภ้อยู่ที่บ้านดอนหญ้านาง ต.ดอนหญ้านางเป็นตำบลและหมู่บ้านใกล้เคียงกัน (ปัจจุบันหย่าล้างไปมีสามีใหม่) ได้มาหาพวกตนอยู่ที่บ้านหนองหัวช้างขอมาขอดูลายมือให้ และอ้างว่าพวกตนนั้นมีเคราะห์ จะต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ไม่งั้นอาจทำให้เสียชีวิตได้ และก่อนจะดูหมอหรือดูลายนี้วมือให้ หญิงคนดังกล่าวอ้างตัวเองว่า เป็น อ.นางแพรทิพย์หรือลูกแก้ว และมาในร่างทรงกุมารทองชื่อ”พี่เปีย” จะสร้างความเชื่อถือโดยการ ทายบัตรประชาชนของพวกตนในกระเป๋าสตางค์ถูกทั้ง 13 หลักและถูกทุกคนด้วย นอกจากนี้ยังทายหมายเลขบัญชีธนาคารของพวกตนถูกทุกคนด้วยเช่นกัน หลังเห็นความแม่นยำการทายของกุมารทองเช่นนี้จึงยอมหลงเชื่อ และกุมารทองยังบอกอีกว่าหากจะให้พ้นเคราะห์ต้องนำเงินที่มีอยู่มาฝากออมไว้กับร่างทรง คือ นางแพรวทิพย์ หากต้องการใช้เงินจำนวนที่นำมาฝากก็จะคือให้หรือโดยการโอนคืนให้ทันที
.
ผู้เสียหายเล่าต่อมา ช่วงตันปี พ.ศ.2564 ฝ่ายนางแพรวทิพย์ เริ่มเข้ามาชักชวนให้กับผู้เสียหายหลายคน ให้ร่วมทำบุญโดยอ้างว่าจะสร้างพระประธานถวายวัดที่บ้าน คือวัดป่าสามัคคีธรรม โดยเป็นเจ้าภาพหล่อพระพุทธรูปชื่อ”พระรวยแสนล้าน” ปางประทานพร องค์ละ 6 หมื่นถึง 2 แสนบาท และหลอกว่าสามารถซื้อรถมือสองราคาถูกกว่าตลาดขายรถมือสองทั่วไปได้ด้วย จึงได้นำเงินหรือโอนเงินคนละ 1-2 แสนบาทให้กับนางแพรวทิพย์ไป โดยความเสียหายที่รวบรวมได้ ประมาณ 620,000 บาท ทั้งเงินที่ฝากออมไว้เสียเคราะห์ เงินยืม เวลาขอคืนก็ไม่ได้คืน ส่วนเงินฝากซื้อรถมือสองก็ไม่ได้รถตามสั่ง จึงเริ่มรู้ว่าถูกหลอกลวงแน่แล้ว จึงได้ขอทวงเงินคืนช่วงกลางปี 2565 ปรากฏว่า อ.แพรวทิพย์ วรรธน์จรรย ตกลงว่าจะคืนให้ทุกคนทุกบาท แต่พอถึงวันนัดก็เลื่อนไปเรื่อยๆ และล่าสุด วันที่ 6 ก.ค.นี้ได้บ่ายเบี่ยงส่งข้อความทางไลน์มาว่ารอพี่เปีย(กุมารทอง)มาเคลียร์ให้ สุดท้ายฝ่ายผู้เสียหายก็ไม่ได้รับเงินดังกล่าว จึงได้มาแจ้งความกับพนักงานงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยยืนยันว่า หากนางแพรวทิพย์ ร่างทรงกุมารทอง คืนเงินที่หลอกลวงหรือฉ้อโกงไปนั้นกับผู้เสียหายทั้ง 4 คนก็จะถอนแจ้งความร้องทุกข์ไม่ดำเนินคดีใดๆ
ด้านพระครู มลศรี สัปปัญโญ หรือพระอาจารย์แปะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว ญาติโยม ชาวบ้านหนองหัวช้าง ได้ร่วมกันสร้างพุทธรูปพระรวยแสนล้านปางประทานพร โดยมีกลุ่มศรัทธาญาติโยม ที่อ้างว่าเป็นผู้ที่ประสานสร้างพุทธรูป ได้นำพระพุทธรูปดังกล่าวมาถวายที่วัดก่อนที่จะถวายได้มีการนำพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ออกแห่ไปตามหมู่บ้านและอำเภอพรเจริญ และอำเภอโซ่พิสัย เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปด้วยกัน โดย นำไปขึ้นรถแห่ประมาณ 4-5 วัน จึงนำพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมาถวายที่วัด ขณะที่ญาติโยมในหมู่บ้านร่วมกันรับประทานอาหารอยู่บนศาลาวัด กลุ่มโยมที่ร่วมประสานหล่อพระพุทธรูปได้ขึ้นมาหาอยู่บนกุฏิแห่งนี้ประมาณ 3-4 คนและแจ้งว่า จะถวายแค่พุทธรูปเท่านั้น ส่วนปัจจัยต่างๆ ที่ชาวบ้านร่วมทำบุญมาด้วยจะได้นำเอาไปร่วมสร้างพระพุทธรูปหรือหล่อพระ เพื่อไปถวายยังวัดอื่นต่อไป ซึ่งพระอาจารย์แปะก็อนุโมทนาสาธุด้วย
ด้าน นายฉลอม โพธิจันทร์ อายุ 72 ปี ชาวบ้านหนองหัวช้างและเป็นมัคนายกในวัดเล่าว่า ไม่เคยเห็นร่างทรงกุมารทองที่ตกเป็นข่าวมาเข้าทรงที่วัดแห่งนี้เลย แต่ก็เคยได้ยินตอนเอาพระพุทธรูปปางประทานพรชื่อ” พระรวยแสนล้าน” มาถวาย เจ้าอาวาสวัดเมื่อปีที่แล้วเท่านั้นเอง