"ผบช.ภ.4".สั่งเอาเรื่องวัยรุ่นก่อเหตุตีกันในห้องฉุกเฉิน รพ. คาดโทษให้หนักทุกข้อหา
7 ต.ค. 2562, 16:50
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อารัก มาสาธานัง รอง ผบก.พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ เดินทางลงพื้นที่ สภ.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เพื่อติดตามการดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ยกพวกเข้าไปทำร้ายคู่อริภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลปากคาด เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลกำลังจะช่วยเหลือคนไข้ ที่ได้รับบาดเจ็บมาจากเที่ยวดูงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นภายในงานบุญประเพณีแข่งเรือยาว ของเทศบาลอำเภอปากคาด แล้วนำคลิปไปโพสต์ลงโลกโซเชียล ซึ่งภาพเหตุการณ์ได้ถูกส่งต่อไปอย่างแพร่หลาย ทำให้ชาวโซเชียลได้วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ขอให้ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้เข็ดหลาบ
จากนั้นได้เรียก พ.ต.อ.สมยศ รามกุล ผกก.สภ.ปากคาดและร.ต.อ.อมรินทร์ วงศ์ตาแสง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีวัยรุ่นตีกันเข้าประชุมพร้อมด้วยนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาประชุมอยู่ 30 นาที สรุปว่าให้พนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนนำตัว 2 วัยรุ่นที่เข้าไปทำร้ายคู่อริมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด และสอบสวนขยายผลไปหากลุ่มเพื่อนที่บุกไปโรงพยาบาลด้วยกัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากมี นำมาดำเนินคดีให้หมด เพื่อให้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่เยาวชนอีกต่อไป จากนั้นเดินทางไปประชุมร่วมกับ นพ.จรูญ สุรารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากคาด และเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลปากคาด สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และดูภาพจากกล้องวงจรปิดทุกมุม อีกครั้งพร้อมกับตำรวจชุดสอบสวนและสืบสวน เพื่อแกะรอยหากลุ่มวัยรุ่นผู้ร่วมก่อเหตุหรือสนับสนุนในคืนเกิดเหตุ โดยใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่า คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้ให้ความสนใจในคดีดังกล่าวมาก โดยมอบหมายให้ผมลงพื้นที่มาร่วมปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด จากการหารือกันได้พิจารณาแล้วว่าการกระทำของกลุ่มวัยรุ่น เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่สมควรที่จะเป็นแบบอย่าง ควรที่จะลงโทษให้สูงสุดในทุกข้อหา
ซึ่งในขณะนี้พยานหลักฐานที่เรามีและปรากฏอยู่เราจะดำเนินคดี นอกจากข้อหาทำร้ายร่างกายที่ดำเนินการไปแล้ว จะเพิ่มข้อหา 1. ร่วมกันบุกรุก โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้มีผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ 2.ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนอีกคดีก่อความเดือดร้อนรำคาญ ก็ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีใครร่วมการกระทำความผิดเพื่อเติมนอกเหนือจาก 2 คนที่ปรากฏในคลิปข่าวทำร้ายร่างกาย
ส่วนมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ทางตำรวจได้ร่วมกับโรงพยาบาลวางแผนร่วมกัน ซึ่งจริงๆ เป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้วที่จะดูแลโรงพยาบาลหรือสถานที่ราชการอื่นๆ ในกรณีมีประชาชนมาก่อความวุ่นวาย ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานวานกับทางโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงนี้ที่จะมีเทศกาลสำคัญก็จะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประจำอยู่โรงพยาบาล และตรวจตราถี่ขึ้นใช้มาตรการที่เข็มข้นมากกว่าเดิม โดยจะออกเป็นแผนคำสั่งอย่างชัดเจนมอบให้กับทางโรงพยาบาลไว้ติดต่อประสานงานได้ตลอดเวลา ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ถือว่าตำรวจมาเร็วหลังจากรับแจ้งเพียง 2 นาทีก็มาถึงทำให้เหตุการณ์ไม่รุนแรงบายปลาย จึงอยากขอเตือนพี่น้องประชาชนหรือกลุ่มวัยรุ่นที่เมาแล้วคึกคะนองก่อเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกจะต้องถูกดำเนินคดีให้เด็ดขาดถึงที่สุด