จากกรณีที่มีญาติประกาศให้ช่วยติดตาม นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมัน ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมรถเบนซ์สีเทา พร้อมระบุว่าหากผู้ใดพบเห็นเจอรถคันดังกล่าว จะให้รางวัล 100,000 บาท แต่หากพบตัวผู้สูญหาย และยังมีชีวิตอยู่ จะให้ 3,000,000 บาท โดยญาติได้เข้าแจ้งความคนหายกับ สภ.หนองปรือ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายฮันส์ได้หายออกจากหมู่บ้านสวิตพาราไดร์ โดยมีหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิด

ต่อมาพบรถเบนซ์หรู  ของ นายฮันส์ ที่ขับออกมาพูดคุยกับนายหน้าขายที่ดินในวันที่ 4 ก.ค.66 จอดที่ลานจอดรถของคอนโดมิเนียมใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 ก.ค.66 ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า วันนี้ชุดคลี่คลายคดีได้เข้ามาประชุมติดตามความคืบหน้าแล้ว โดยข้อมูลล่าสุดยังไม่พบร่องรอยการหายตัวไปของ นายฮันส์ ปีเตอร์ แต่ในส่วนของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคนที่ติดต่อมาหรือที่เรียกว่า “นกต่อ” นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวแล้ว รวมถึงข้อมูลบุคคลที่เป็นคนรับเงินปลายทางด้วย ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างไล่หาความเชื่อมโยง เพราะกระบวนการนี้ สิ่งสำคัญคือ การหายตัวไปของนายฮันส์ ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเป็นศพไปแล้ว

นอกจากนี้ส่วนหนึ่งกำลังไล่ดูความเชื่อมโยง เรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน และการไล่กล้องวงจรปิดทั้งหมด จะเร่งไขปริศนาการหายตัวไปของ นายฮันส์ และนำความจริงออกมาเปิดเผยให้ได้ โดยสิ่งสำคัญตอนนี้คือ ต้องหาให้ได้ว่า นายฮันส์ ไปอยู่ที่ไหน และยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งมูลเหตุสำคัญตอนนี้มุ่งไปที่เรื่องเดียวคือ “การประสงค์ต่อทรัพย์” ไม่มีเรื่องอื่นอย่างแน่นอน และเชื่อว่าจะต้องมีคนชี้เป้าว่านายฮันส์ มีทรัพย์สิน มีเงิน มีทองด้วย ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป

ส่วนในรถเบนซ์ของ นายฮันส์ ที่พบเมื่อวานนี้ พบว่า มีการตั้งใจทำลายหลักฐานต่างๆ โดยใช้สารบางอย่างแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าสารดังกล่าวเป็นสารชนิดใด และต้องรอคุยกับทางนิติวิทยาศาสตร์ว่า สารนี้ส่งผลอย่างไรต่อการทำลายพยานหลักฐาน

นอกจากนี้จากการสอบปากคำ “โอลาฟ” ตลอดทั้งคืน เจ้าตัวยังไม่ให้การใดๆ ส่วนตัวเชื่อว่า เขาเตรียมตัวมาแล้ว และตั้งใจที่จะก่อเหตุนี้ โดยการเตรียมการของเขาก็คือ มีการเตรียมการกับทนายไว้แล้ว ว่าต้องให้การอย่างไรบ้าง ซึ่งหน้าที่ของเราคือ การหาความเชื่อมโยงในการที่จะเอาผิดกับเขาให้ได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เงินที่โอนมาจากบัญชีของ นายฮันส์ พบว่า “โอลาฟ” เป็นคนรับเงินดังกล่าว แต่ต้องไปตรวจดูก่อนว่า เขารับเงินมาอย่างไร และต้องดูความสัมพันธ์ย้อนหลังไปด้วยว่าที่ผ่านมาเขารู้จักกันได้อย่างไร และทั้ง 2 ฝ่ายทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่

เบื้องต้น ตอนนี้พบผู้เกี่ยวข้องเป็นหญิง ทำหน้าที่เป็นนางนกต่อชี้เป้า 1 คน ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ในกล้องวงจรปิด และตัวการหลักคือ โอลาฟ ส่วนคนอื่นอยู่ระหว่างไล่ข้อมูลว่าเป็นใคร แต่ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ ในส่วนประเด็นเรื่องของการอุ้มครั้งนี้ ได้เงินค่าจ้างถึง 8 แสนบาทนั้น ยังไม่มีข้อมูลส่วนนี้

สำหรับคดีนี้เกี่ยวข้องกับแก๊ง Outlaws หรือไม่นั้น ขอมาดูก่อนว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่เบื้องต้น มีเรื่องการหักกันเรื่องที่ดินสนามมวยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ไม่ทั้งหมด รวมถึงพิกัดที่พบล่าสุดอยู่ในพื้นที่ จ.สระแก้ว หรือ พนมเปญ ประเทศกัมพูชานั้น ยังไม่แน่ชัดว่า นายฮันส์ อยู่ที่ไหนกันแน่

นอกจากนี้มีข้อมูลว่า นายฮันส์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับเวทีมวยและการซื้อขายที่ดิน และยังไม่พบว่าเป็นมาเฟียข้ามชาติ แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังว่าทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่