รวบตัว "คนร้าย" ขโมยจักรยานยนต์ได้เพราะไลน์ผู้ต้องหาเด้ง
12 มิ.ย. 2562, 08:44
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บุญรอด รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.สราวุธ ศรนรินทร์ รอง สว.สส. และ เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.สองพี่น้อง นำกำลังจับกุมนายกาญจนโรจน์ คล้ายสุบรรณ อายุ 26 ปี กับ นายเกรียงศักดิ์ บำรุงรักษ์ อายุ 30 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.บ้านช้าง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมกับผู้ต้องหาอีกรายชื่อนายอานนท์ บุญเกิด อายุ 32 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.วัดดาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ในข้อหารับของโจรพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ติดทะเบียน 1 คัน ยึดมาจากบ้านนายอานนท์ บุญเกิด อายุ 32 ปี (ผู้ต้องหา) และรถจักรยานยนต์ แบบพ่วงข้าง ซูซูกิ สแมช ทะเบียน ขพธ - 323 สุพรรณบุรี อีก 1 คัน ยานพาหนะที่นายกาญจนโรจน์ คล้ายสุบรรณ กับ นายเกรียงศักดิ์ บำรุงรักษ์ (ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย) ใช้ก่อเหตุลักทรัพย์
ด้าน พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.สองพี่น้อง กล่าวว่าเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากนายเกษม หมอนวนดี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 2 ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เจ้าของร้านขายของชำว่าเมื่อช่วงเวลา 01.30 น. ของวันที่ 7 มิ.ย. 62 ที่ผ่านมา มีผู้ต้องหา 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สี และทะเบียน ขี่มาจอดบนถนนหน้าบ้าน ต่อมาผู้ต้องหา 1 คน ได้ทำทีลงมาเติมเงินโทรศัพท์ที่ตู้เติมเงินตนไม่ได้เอะใจอะไรนึกว่าลูกค้ามาเติมเงินโทรศัพท์ โดยตนได้จอดรถรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง แบบพ่วงข้างไว้ ต่อมาช่วงเช้าพบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว จึงคิดว่าต้องเป็นชาย 2 คนที่เมื่อคืนที่มาเติมเงินในตู้โทรศัพท์อัตโนมัติอย่างแน่นอน จึงเดินทางมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
หลังทราบเรื่อง พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.สองพี่น้อง จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บุญรอด รอง ผกก.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่ตู้เติมเงินมีการเติมเงินเข้าหมายเลขโทรศัพท์ 08-29285-204 ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับที่ผู้เสียหายเห็นผู้ต้องหา ดังนั้นจึงได้วางแผนโทรศัพท์เข้าไปหาเบอร์ดังกล่าว ปรากฏว่าโทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย แต่จู่ๆกลับมีโปรแกรมไลน์เพิ่มเพื่อนอัตโนมัติด้วยเบอร์โทรศัพท์เด้งขึ้นมา เป็นรูปนายกาญจนโรจน์ คล้ายสุบรรณ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาอย่างชัดเจน จึงสอบสวนจนทราบที่อยู่และนำกำลังไปจับกุมได้ยกแก๊ง
จากการสอบสวนนายกาญจนโรจน์ (ผู้ต้องหา) ให้การรับสารภาพว่าไปเติมเงินที่ตู้ดังกล่าวจริง ระหว่างเห็นรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างจอดอยู่ หลังจากเติมเงินเสร็จได้เข็นรถออกไปบนถนนแล้วให้เพื่อนถีบไป จากนั้นได้ถอดพ่วงข้างออกเพื่อนำไปใส่อีกคัน ก่อนนำรถจักรยายยนต์ไปขายต่อในราคา 2,000 บาท ไม่คิดว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ตนเติมเงินจะไปเด้งเพิ่มเพื่อนในไลน์ของเจ้าของรถกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ในที่สุด จากนั้นจึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป