เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เกี่ยงกันวุ่น! ไร้หน่วยงานเป็นเจ้าภาพแจ้งเอาผิดหัวขโมยลักเสาไฟโคมสับปะรดริมอ่าวประจวบไปขายร้านของเก่า


11 ก.ค. 2566, 05:21



เกี่ยงกันวุ่น! ไร้หน่วยงานเป็นเจ้าภาพแจ้งเอาผิดหัวขโมยลักเสาไฟโคมสับปะรดริมอ่าวประจวบไปขายร้านของเก่า




วันที่ 10 กรกฎาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกลุ่มบุคคลนำรถกระเช้าสีส้มคล้ายกับรถของทางเทศบาลบรรทุกเสาไฟโคมรูปสับปะรดที่ติดตั้งส่องสว่างบริเวณริมอ่าวประจวบไปขายที่ร้านแก้วสุวรรณรีไซเคิล ถนนสุขสมบูรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 66 และนำรถกระเช้าสีส้มคันเดิมมาขนกลับ และคืนเงินให้กับเจ้าของร้าน จำนวน 1,000 บาท เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม 66 ที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยงานภาครัฐอยู่ระหว่างทำการตรวจสอบ เพื่อหาเจ้าของงบประมาณที่จัดซื้อเสาไฟโคมรูปสับปะรดที่นำมาติดตั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในการแจ้งความเอาผิดดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่นำเสาไฟไปจำหน่ายที่ร้านรับซื้อของเก่า เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งเสาไฟมีราคารวมค่าติดตั้งต้นละ 80,000 บาท ถึง 100,000 บาท โดยมีมากกว่า 300 ต้น ที่ติดตั้งบริเวณสันเขื่อนริมอ่าวประจวบ ตั้งแต่หน้ารั้วกองบิน 5 ถึงค่ายลูกเสือตาม่องล่าย ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ

คืบหน้าล่าสุด นายสุวิทย์ พลเสน หัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การใช้งบประมาณจัดทำเสาไฟดังกล่าวในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯมี 4 สัญญา ประกอบด้วย 1. กรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ใช้งบจัดซื้อเสาสูง 4 เมตร 75 ต้น ตั้งแต่สะพานสราญวิถีถึงรั้วกองบิน 5 2. สำนักงานจังหวัดใช้งบพัฒนาจังหวัดมอบโยธาฯจัดซื้อเสาสูง 4 เมตร 60 ต้นระยะทาง 500 เมตร จากสะพานสราญวิถีถึงสะพานคลองบางนางรม ที่ผ่านมาได้ส่งมอบให้เทศบาลเมืองประจวบฯดูแลทรัพย์สินแล้ว 3. สำนักงานจังหวัดใช้งบพัฒนาจังหวัดมอบโยธาฯใช้งบจัดซื้อเสาบนสะพานสราญวิถีและถนนก้องเกียรติ และ 4. สำนักงานจังหวัดใช้งบพัฒนาจังหวัดมอบโยธาฯจัดซื้อเสาสูง 6 เมตร จำนวน 180 ต้น จากสะพานคลองบางนางรมถึงค่ายลูกเสือตาม่องล่าย ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของโยธาฯ

 

 

 

 



นายสุวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีแผนขอใช้งบประมาณจังหวัดดำเนินการซ่อมแซมบำรุงรักษาเสาไฟ แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลานานพอสมควร และขอเรียนว่าเสาไฟที่ชำรุดไม่ได้นำมาเก็บไว้ที่สำนักงานโยธาฯ ตามที่บางหน่วยงานกล่าวอ้าง สำหรับเสาไฟที่มีการใช้รถยนต์ของทางราชการนำไปขายร้านของเก่า พบว่ามีความสูง 4 เมตร โคนเสามีสนิม ซึ่งต้องพิสูจน์ว่าเป็นของกรมการท่องเที่ยว หรือเทศบาลเมืองฯ เป็นเจ้าของทรัพย์สิน สำหรับเสาไฟตั้งแต่สะพานสราญวิถีถึงสะพานคลองบางนางรมปรากฏหลักฐานในปี 2563 มีไฟช๊อตนักท่องเที่ยวหน้าสำนักงาน อบจ.ปลัดเทศบาลที่รักษาการแทนนายกเทศมนตรี ขณะนั้นยอมรับผ่านสื่อว่าเป็นเสาไฟของเทศบาล ส่วนเสาไฟที่มีการลักไปขายหาดเทศบาลหรือสำนักงานท่องเที่ยว ต้องการทราบข้อเท็จจริงก็ควรไปขอดูภาพจากร้านรับซื้อของเก่า

ด้าน น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัศมี หัวหน้าสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเทศบาลได้นำเสาไฟเก่าจำนวน 3 ต้นมาคืนให้สำนักงานเก็บรักษา เนื่องจากเดิมกรมการท่องเที่ยวหน่วยงานในส่วนกลางจัดซื้อเสาไฟทั้งหมด 75 ต้น แต่ยังไม่มีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้กับเทศบาลเมืองประจวบฯ ขณะที่สำนักงานท่องเที่ยวไม่มีงบประมาณซ่อม และไม่ได้รับมอบหน้าที่ให้ดูแลรักษา ขณะนี้ไม่มีทะเบียนคุมพัสดุ จึงไม่ทราบว่าเสาไฟที่มีการติดตั้งปัจจุบันเหลือกี่ต้น สูญหายกี่ต้น ส่วนกรณีที่ปัจจุบันเสาไฟไม่สามารถใช้การได้ทั้งระบบ จะต้องเสนอให้มีการรื้อของเก่าที่ชำรุด พร้อมมีการเสนอจัดทำแผนใช้งบประมาณในแผนพัฒนาจังหวัดเพื่อปรับปรุง เนื่องจากสถานที่ติดตั้งเสาไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ส่วนกรณีจะมีการแจ้งความเอาผิดหรือไม่นั้นต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าเสาไฟต้นนั้นเป็นของใคร ใช่ของท่องเที่ยวหรือไม่

 

 


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า จากการตรวจสอบขอเรียนแจ้งว่าขณะนี้ไม่มีเอกสารหลักฐานที่เทศบาลรับมอบเสาไฟฟ้าสูง 4 เมตร จำนวน 60 ต้น ระยะทาง 500 เมตร จากสะพานสราญวิถีถึงสะพานคลองบางนางรม หากยืนยันว่าทางเทศบาลได้รับมอบแล้วจริงก็ขอให้เอาเอกสารการส่งมอบมาแสดงยืนยัน ส่วนสำหรับรถยนต์ของทางราชการแห่งหนึ่งที่อ้างว่านำเสาเก่าไปขายที่แก้วสุวรรณรีไซเคิล และไปขอเสาไฟกลับคืน ได้สั่งให้นิติกรตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นรถยนต์กระเช้าของเทศบาลเมืองหรือไม่ เนื่องจากรถที่กล่าวอ้างมีทั้งของเอกชน และหน่วยงานอื่นๆซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน เทศบาลจึงไม่ทราบว่าเสาไฟที่นำไปขายอยู่ที่ใด และได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งว่าไม่มีผู้ใดทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ขอยืนยันว่าระดับผู้บริหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน และหากตรวจสอบพบว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชามีความผิดจริงก็จะดำเนินการเอาผิด โดยไม่มีการปกป้อง ซึ่งได้ดำเนินการสั่งตรวจสอบไปแล้วคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2-3 วันจะสามารถให้คำตอบกับสื่อมวลชนได้

จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีรถกระเช้าสีส้มของราชการแอบนำเสาไฟสับปะรดไปขายเศษเหล็กที่เชียงกงราคา 1 พันบาท ได้นำหลักฐานไปลงบันทึกประจำวัน และให้เวลาไม่เกิน 7 วัน หากไม่มีคำตอบจะร้องเรียน ป.ป.ช. หลังจากสำนักงานจังหวัดที่ใช้งบพัฒนาจังหวัดตั้งเสาไฟ 60 ต้น จากสะพานสราญวิถีถึงสะพานบางนางรม โดยโยธาฯอ้างว่าได้มอบโครงการให้เทศบาลเมืองฯดูแลในยุคที่นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีปัจจุบันยังเป็น ส.ท. จริงหรือไม่ ซึ่งพบว่าเสาไฟหายไป 24 ต้น พบเป็นซากที่อาคารบ่อบำบัดน้ำเสียเพียง 3 ต้น หรือจะเป็นเสาไฟของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงกีฬาฯใช้งบตั้งเสา 75 ต้น จากสะพานสราญวิถีถึงรั้วกองบิน 5 โดยหน่วยงานพื้นที่ไม่มีทะเบียนคุมพัสดุ ไม่ทราบจำนวนเสาไฟที่สูญหาย

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.