เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 7 ต.ค. 62  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ประมาณ ยวนยี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนนอนเสียชีวิตภายในรถยนต์ ที่บริเวณถนนราชการรถไฟ 3 หน้าอาคารแพทย์แผนไทย รพ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรพงศ์  วรพิมพ์รัตน์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.ณัฐพงศ์  แก้วเหลา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.ธานินทร์  อินทร์กอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ต.ชัชพงศ์ โสดา สว.สส.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ต.ขจรศักดิ์ เสฐียร สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และแพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษ ไปยังที่เกิดเหตุ

 

เมื่อไปถึงพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสสัน มาร์ช สีเขียว หมายเลขทะเบียน กฉ 8584 บุรีรัมย์  จอดอยู่ริมถนน พร้อมกับติดเครื่องยนต์ไว้ พร้อมกับปิดล็อคกุญแจ ภายในรถพบว่าเบาะคนขับมีชายวัยประมาณ 60 ปี นั่งอยู่ในลักษณะเอนเบาะไปข้างหลังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง และมีหญิงวัยใกล้เคียงกันนั่งในลักษณะเดียวกันอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ ขาข้างซ้ายวางพาดขึ้นมาอยู่บนคอลโซลหน้ารถ  เจ้าหน้าที่ได้พยายามร้องปลุกยังไงก็ไม่ตื่น คาดว่าจะเสียชีวิตแล้วทั้งคู่  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการงัดประตูหน้าฝั่งคนขับเพื่อเปิดประตูรถออก และพบว่าทั้ง 2 คน ได้เสียชีวิตแล้ว

 

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายชื่อนายประกาศิต นาควรพงศ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ต.กระเบื้องนอก อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา และ น.ส.อมรรัตน์ เด่นวรพงค์ อายุ 53 ปี สองสามีภรรยา บริเวณท้ายเก๋งพบกระถางต้นไม้วางอยู่บนกระทะไฟฟ้า ภายในกระถางต้นไม้พบมีการจุดยากันยุงไว้ภายในจำนวนหลายขด โดยนำฝากระทะไฟฟ้าปิดทับไว้ ข้างกันพบยากันยุงที่ยังไม่ได้จุดอีกจำนวนหนึ่ง และจากการตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายของ นางอมรรัตน์ พบมีจดหมายฉบับหนึ่งมีข้อความระบุว่า

“ข้าพเจ้า อมรรัตน์ เด่นวรพงค์ ขอโทษด้วยนะคะ ตัดสินใจทำแบบนี้เพราะทำอะไรก็มีแต่คนเห็นแก่ตัว ขอโทษเจ้าหนี้ด้วย ไม่ต้องสืบอะไร เพราะว่า อมรรัตน์ ไม่มีพี่น้องที่ไหนเลย ฝากร่างอมรรัตน์ และเงินติดตัว ขอมอบให้กับมูลนิธิฯ บ้านถูกยึดแล้วยังถูกฟ้องอีก รับไม่ได้ขอตายดีกว่าอยู่แล้วทรมาน ฝากมูลนิธิเผาร่างเราทั้งสองด้วย สุดท้ายขอรบกวนอย่างหนึ่งด้วยนะคะ ทรัพย์สินที่ติดตัวยกให้มูลนิธิ อย่าส่งข่าวไปหาญาติที่ไหน เพราะเราทั้งสองไม่มีญาติ บ้านก็เช่าเขาอยู่ รบกวนมอบร่างเราทั้งสองให้มูลนิธิ เราทั้งสองขอขอบคุณมาก ถ้าเรามีบ้านเราจะไม่ตัดสินใจตายพร้อมกัน”