จากกรณีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 โดยได้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพียงชื่อเดียว ปรากฎว่า ผลการลงคะแนนอย่างเป็นทางการ เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง และงดออกเสียง 199 เสียง ส่งผลให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้คะแนนเห็นชอบรวมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงถือว่ามติที่ประชุมไม่เห็นชอบการแต่งตั้งนายพิธา ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 วรรค 1

วันนี้ ( 14 ก.ค.66 ) เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล - Move Forward Party ได้โพสต์ข้อความระบุว่า บทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ สืบทอดอำนาจ มาตรา 272 ให้อำนาจ ส.ว. (ที่มาจากกระบวนการคัดเลือกและแต่งตั้งโดย คสช.) มีอำนาจร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีด้วย ทำให้เสียงของประชาชนถูกบิดเบือนไป

ในการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2566 ผลออกมาว่าพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ไม่เพียงพอ แม้จะได้รับเสียงจาก ส.ส. ร่วม 8 พรรคการเมืองเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ตาม

แต่ก็ยังมี ส.ว. อีก 13 คน ที่โหวตเห็นชอบให้พิธาเป็นนายกด้วย พรรคก้าวไกลขอแสดงความขอบคุณในความกล้าหาญของทุกท่านที่ร่วมรักษาหลักการประชาธิปไตย โหวตนายกรัฐมนตรีตามเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร

ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์
จรุงวิทย์ ภูมมา
เฉลา พวงมาลัย
ซากีย์ พิทักษ์คุมพล
ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง
พิศาล มาณวพัฒน์
พีรศักดิ์ พอจิต
มณเฑียร บุญตัน
วันชัย สอนศิริ
วุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์
สุรเดช จิรัฐิติเจริญ
อำพล จินดาวัฒนะ
ประภาศรี สุฉันทบุตร