เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกเทศบาลเมืองประจวบฯ ยันเจ้าหน้าที่ปฏิเสธนำรถหลวงยกเสาไฟต้นละ 8 หมื่น แอบขายเชียงกง


15 ก.ค. 2566, 09:39



นายกเทศบาลเมืองประจวบฯ ยันเจ้าหน้าที่ปฏิเสธนำรถหลวงยกเสาไฟต้นละ 8 หมื่น แอบขายเชียงกง




วันที่ 15 กรกฎาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่เทศบาลแห่งหนึ่ง นำรถกระเช้าสีส้มบรรทุกซากเสาไฟเหล็กเคลือบไปจำหน่ายที่“ แก้วสุวรรณรีไซเคิล” ถนนสุขสมบูรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จากนั้นไปขอเสาไฟกลับคืนพร้อมคืนเงินให้เจ้าของเชียงกง 1000 บาท ขณะที่หน่วยงานภาครัฐเร่งตรวจสอบ เพื่อหาเจ้าของงบจัดซื้อ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องที่นำเสาไฟไปจำหน่ายในร้านรับซื้อของเก่า เนื่องจากที่ผ่านมา เสาไฟมีราคารวมค่าติดตั้งต้นละ 8 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท มีมากกว่า 300 ต้น ติดตั้งที่สันเขื่อนริมอ่าวประจวบฯ ตั้งแต่หน้ารั้วกองบิน 5 ถึงค่ายลูกเสือม่องล่าย ระยะทาง 8 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์

นายอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้เร่งรัดให้นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์สอบสวนหาข้อเท็จจริงและรายงานจังหวัดทราบโดยด่วน ภายในวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์กับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งชี้แจงรายละเอียดในการใช้รถยนต์ของทางราชการตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลจาการนำเสาไฟไปจำหน่ายให้ร้านขายของเก่าและไปขอเสาไฟกลับคืนตามวันเวลาที่มีการนำเสนอข้อมูล โดยผู้บริหารต้องเร่งรัดแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้จบโดยเร็ว เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจ

 

 



นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีที่มีเสาไฟสับปะรดล้มหน้าโรงแรมซีไซด์ ชุมชนหัวบ้าน ใกล้กองบิน 5 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่แจ้งว่านำรถออกไปซ่อมเสาไฟ แต่ไม่ได้รายงานว่ามีเสาไฟหักโค่น และเหลังจากจังหวัดสั่งให้สอบข้อเท็จจริง ได้สั่งการให้นิติกรไปสอบถามเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า ได้รับแจ้งว่าจดจำบุคคลที่นำเสาไฟไปขายและรถยนต์ที่นำเสาไฟไปขายไม่ได้ สำหรับกล้องจรปิดร้านของเก่าบอกว่าชำรุด ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นจะรายงานให้จังหวัดรับทราบ ส่วนเสาไฟสับปะรดที่ไปกองทิ้งอยู่ที่บ่อบำบัดน้ำเสียมีลักษณะเดียวกันกับเสาไฟที่ร้านรับซื้อของเก่า ก็ไม่มีใครรับทราบ

นายกมล กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบเสาไฟสับปะรด ขอเรียนว่าเทศบาลยังไม่เอกสารหลักฐานในการรับมอบ ขณะที่บางหน่วยยืนยันเอกสารว่ามีเอกสารที่อดีตนายกเทศมนตรีไปลงนามรับมอบเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีในระบบงานสารบรรณ ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯก็ต้องชี้แจงตามข้อเท็จจริง ส่วนการซ่อมเสาไฟสับปะรดที่ชำรุดก็ถือเป็นหน้าที่ เพื่อไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ทั้งนี้เสาไฟที่ชำรุดโยธาจังหวัดบอกว่าไม่ใช่เจ้าของ จึงนำไปเก็บไว้ที่บ่อบำบัด บางส่วนนำไปมอบให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา

 

 


จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบพบว่ามีเสาไฟสับปะรด 3 ต้น มีการนำไปกองไว้ริมบ่อบำบัดน้ำเสียด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของเทศบาล มี 1 ต้นลักษณะคล้ายกับที่พบในร้านรับซื้อของเก่า สำหรับ 2 ต้นที่กองอยู่บริเวณใกล้กันมีสภาพเก่าและมีวัชพืชปกคลุม ต่อมาได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ล่าสุดพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาเจ้าของหน่วยงานเจ้าของเสาไฟสับปะรด ซึ่งจะต้องพิสูจน์จากทะเบียนคุมพัสดุ แต่ทราบว่าเทศบาล โยธาจังหวัด สำนักงานจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ไม่มีหน่วยงานใดมีหลักฐานในกรณีดังกล่าว

จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า สำหรับเสาไฟที่บ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองประจวบฯต้องหาข้อมูลว่ามีบุคคลใดนำไปกองทิ้งไว้ ส่วนเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าจะนำหลักฐานจาการเสนอข่าวของสื่อมวลชนไปแจ้งพนักงานสอบสวนเพิ่ม ให้ดำเนินการหาข้อเท็จจริงว่ามีพฤติกรรมรับซื้อของโจรหรือไม่ เนื่องจากเจ้าของร้านรับซื้อยอมรับว่ามีรถของทางราชการนำมาขาย มีการนำเสนอข่าวว่ารับเงินคืน 1000 บาท จากผู้ขาย จากนั้นใช้รถของทางราชการนำเสาไฟเก็บที่บ่อบำบัดน้ำเสีย กรณีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่ตรวจจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 3 กรกฎาคม และช่วงเช้าวันที่ 8 กรกฎาคม

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.